Live @Paris
Bonjour, Je Aimer Paris 🙂 Sent from my iPhone
Bonjour, Je Aimer Paris 🙂 Sent from my iPhone
This picture actually taken @Anfield Sent from my iPhone
Finally … My dream comes true … Sent from my iPhone
ผ่านไปแล้ว 1 อาทิตย์กับชีวิตที่อังกฤษ แน่นอนว่าชีวิตที่นี่ก็ต้องต่างกับตอนที่อยู่เมืองไทยค่อนข้างเยอะ หลังจากที่อยู่มาซักพักนึงก็เริ่มปรับตัวได้ และต่อไปนี้คือชีวิตประจำวันที่ทำเป็นประจำอยู่ตามปกตินะคร๊าบบบ 7.00 – เริ่มจากตื่นนอนเลย .. อยู่ที่นี่ตื่นเช้ามาก เพราะเลิกงานไวกว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ เลยต้องไปทำงานให้เช้าหน่อย เวลาตื่นนอนตามปกติคือ 7 โมงเช้า บางวันก็ 7 กว่าๆ 7.30 – แปลงฟัน อาบน้ำ .. แน่นอน ว่าต้องน้ำอุ่น ไม่งั้นหนาวตาย .. หลังจากนั้นก็แต่งตัว โดยที่ขาดไม่ได้คือลองจอน ใส่เป็นชุดแรกแล้วก็ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ทับอีกที เพราะขี้หนาวมาก แค่อยู่ในบ้านยังหนาวเลย 7.45 – ข้าวเช้า ต้องทำกินเอง เพราะไม่มีแซนด์วิชหมูหยองพริกเผาชิ้นละ 20 บาทเหมือนบ้านเรา .. อาหารเช้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคอนเฟลกส์กับนม แล้วก็มีขนมปังทาเนย+แยม ผลไม้ก็กินกล้วยเป็นหลักเพราะง่าย ไว เก็บได้นาน .. ซึ่งทั้งหมดก็จะซื้อตุนเอาไว้อาทิตย์ละครั้ง อีกเรื่องที่ต้องทำช่วงกินข้าวเช้าคือดู ข่าว โดยเฉพาะพยากรณ์อากาศที่นี่จะค่อนข้างละเอียด วันไหนบอกฝนตก มันก็ตก วันไหนบอกหนาว มันก็หนาวโคตรๆ […]
ความเดิมตอนที่แล้ว ที่เคยเล่าว่าความฝันที่ต้องการทำให้ได้และไปให้ถึงภายในช่วงชีวิตนี้ คือการไปเหยียบ(จูบ) สนามของแมนยู นั่นคือที่โอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องให้เข้าใกล้ความฝันนั้นไปทีละนิดๆ หลังจากที่ได้รับทราบว่าได้ไปทำงานที่อังกฤษ แน่นอนจุดหมายแรกคือการวางแผนไปโอลด์แทรฟฟอร์ด(อ๊ะ !! ไม่ใช่ๆ แผนแรกคือทำงานๆๆๆๆ .. 55) แล้วก็เริ่มลองดูตารางการแข่งขัน โชคดีที่ไปช่วงที่เปิดฤดูกาลพอดี ว่าแล้วก็เลยลองหาวันที่เหมาะๆ จะไปดูบรรยากาศรอบๆ สนาม แล้วก็พบว่า วันที่ 29 สิงหาคม เป็นวันบิ๊กแมตช์ แมนยู เจอกับคู่รักคู่แค้นอย่าง อาร์เซนอลพอดี ** โดยส่วนตัวอาร์เซนอลเป็นทีมที่ผมเกลียดเข้าไส้ที่สุด ไม่ใช่ลิเวอร์พูล แต่จะด้วยอะไรก็มิทราบ .. วันเวลาผ่านไป เริ่มเพ้อถึงภาพตัวเองนั่งอยู่สนามในฝัน เชียร์ทีมสุดรัก .. และวันนี้ก็เพ้อเปิดเน็ต คลิ๊กๆๆๆๆ .. แล้วก็จองตั๋วบอลบิ๊กแมตช์ คู่นี้ไปแล้วเรียบร้อยด้วยราคา £205.7 (ประมาณ 12,000 บาท) หลายคนบอกเฮ้ย !! (เมึง)บ้าไปแล้วป่าว ตั๋วบอลอะไรราคาเป็นหมื่น .. ก็แหม ตั๋วราคาปกติมันขายหมดตั้งนานแล้ว เลยต้องซื้อตั๋วจากร้านข้างนอกแทน (โดนโขกไปหลายอยู่) เอาเป็นว่า วันที่ […]
วันก่อนระหว่างที่นั่งอ่านหนังสือ The Last Lecture มีหลายประโยคที่ศาสตราจารย์ Randy Pausch พูดเอาไว้ถึงสิ่งที่อยากจะทำก่อนที่จะตาย .. จากในหนังสือศาสตราจารย์ได้พูดเอาไว้ในระหว่างที่รู้ว่าตัวเองคงมีชีวิตเหลือบนโลกนี้อีกไม่นานนัก เพราะทราบว่าตัวเองกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ตับ อ่านแล้วซึ้งและได้แรงบรรดาลใจ กลับมานั่งมองตัวเอง ว่ามีอะไรบ้างที่อยากจะทำแล้วยังไม่ได้ทำบ้างรึเปล่า จะว่าไปในรอบปีสองปีที่ผ่านมารู้สึกว่าได้ทำอะไรที่เคยอยากทำมาตั้งแต่เด็กแล้วเยอะมาก อย่างเช่น บวช, เรียนโท หรือ ซื้อบ้าน (คอนโด) นั่งคิดซักพักเลยลองเขียนความฝันที่เหลือเล่นๆ ดู ปรากฏว่ากลายเป็นเขียนความฝันเฟื่องไปแทน เพราะมีประเภทที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้อย่าง อยากไปท่องอวกาศ หรืออย่างเล่นบาสกับไมเคิล จอร์แดน เอาใหม่ๆ เลยเปลี่ยนหัวข้อเป็น .. “10 อย่างที่ต้องทำให้ได้ก่อนตาย” .. เอาไว้ตอนแก่จะกลับมาดูอีกที เผื่ออะไรยังไม่ได้ทำจะได้รีบๆ ทำให้เสร็จ 😀 ไปกราบพื้นสนามที่ Old Trafford ถล่มห้องน้ำที่ Anfield กล้าพอที่จะกระโดดบันจี้จัมพ์ ไปเหยียบ Silicon Valley, ถ่ายรูปหน้าบริษัทแอปเปิลกะกูเกิล เที่ยว 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยเฉพาะกำแพงเมืองจีนกับปิรามิดอียิปต์ กระโดดโหยงๆ ทำมือรูปกากบาท ในคอนเสิร์ตของ […]
เคยเขียนรายงานเรื่องแคมเปญงานที่ดีที่สุดในโลก (Best Job in The World) ไปสองเดือนก่อน ตอนนี้ได้ผู้ชนะแล้วคือนักระดมทุนเพื่อการกุศล Ben Southall ชาวอังกฤษ ที่น่าสนใจคือตอนที่รู้ข่าวนี้ไม่ได้ดูจากในเว็บของแคมเปญประกวด แต่เป็นข่าวจากช่อง 9 อสมท. แล้วก็ต่อด้วยช่อง 3 และก็ต้องมาฟังอีกรอบตอนดู UBC News สรุปคือเป็๋นแคมเปญที่ได้ผลจริงๆ ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก แอบเชียร์ Cali Lewis แห่ง GeekBrief.tv แต่ชวดไม่ได้รางวัล จากที่ดูใน podcast ของเจ๊แกก็ยอมรับเลยว่าเกาะที่นี่มันสวยจริงๆ งานนี้การท่องเที่ยว Australia ลงทุนไป 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่สร้างรายได้มาแล้ว 85 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนักท่องเที่ยวเกาะ link – Best Job in The World, BBC
วางแผนจะไปเที่ยวฮ่องกงหลังตรุษจีนเดือนหน้า แต่ดั๊นลืมดูว่า passport หมดอายุเดือนนี้ ดีนะที่ไหวตัวทัน เช้านี้เลยรีบไปต่ออายุ passport (ครั้งที่ 3) จำได้ตอน 7 ขวบเคยนั่งรถเข้ากรุงเทพฯมาทำ passport ครั้งแรก ตอนนั้นมีที่ทำอยู่ที่เดียว คนแสนแปด นั่งรับบัตรคิวนานจนต้องไปซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินรอ จนกินหมดก็ยังไม่ถึงคิว อะไรจะขนาดนั้น หลายปีผ่านไป ยอมรับเลยว่าชอบการทำงานของสำนักงานหนังสือเดินทางของกระทรวงต่างประเทศมาตั้งนานแล้ว เป็นหน่วยงานรัฐที่น่าชื่นชมมากๆ หน่วยงานนึง เพราะเป็นหน่วยงานแรกเลยที่เริ่มใช้คอมฯ เข้ามาช่วย ทั้งถ่ายรูป แสกนลายนิ้วมือ ลดการใช้เอกสาร (มีแค่บัตรประชาชนใบเดียวจบ) แล้วก็ทำรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน นั่งรถไปถึงสำนักงานหนังสือเดินทาง 10 โมง เดินลงไปมีเจ้าหน้าที่แนะนำ ขอบัตรประชาชน ให้บัตรคิว เดินเข้าไปวัดส่วนสูง เชิญไปตามจุดลงทะเบียน (มีมากกว่า 15 จุด !!) มีเจ้าหน้าที่ประจำ กรอกเอกสารหน้าเดียว ถ่ายรูป จ่ายค่าธรรมเนียม 1,000 บาท จ่าค่าไปรษณืย์ ems 35 บาท จบ … ดูนาฬิกาอีกที 10 […]