ถ้าจะหาสมาร์ทโฟนแบรนด์ของคนไทยที่ประสบความสำเร็จและทำยอดขายได้ดีต่อเนื่องมาตลอด หลายคนคงจะนึกถึง i-mobile ซึ่งนอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นสเปคดีในราคาไม่แพงแล้ว ยังมีการพัฒนาเรื่องคุณภาพอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา i-mobile ก็ได้รุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างหนัก จากสมัยก่อนที่หลายคนมองว่าเน้นเครื่องราคาถูก ตอนนี้ก็มีรุ่นพรีเมียมจัดหนัก จัดเต็ม ใส่สเปคมาแบบลุยไม่ยั้ง ในราคาที่จ่ายกันได้สบายกระเป๋า แถมด้วยเอกลักษณ์ที่สามารถดูทีวีได้แบบคมชัดทุกช่อง เหมือนนั่งดูอยู่ที่บ้านเลย
ล่าสุดทาง i-mobile ได้เปิดตัวมือถือเรือธงตัวใหม่นั่นก็คือรุ่น IQZ PRO มาพร้อมฟีเจอร์กล้องคู่ระดับเทพ ที่พอเราถ่ายรูปเสร็จปุ๊บ สามารถมากดโฟกัสภาพทีหลังได้ด้วย !! พร้อมสเปคแรงแบบจัดเต็ม ในราคาแค่ 11,900 บาทเท่านั้น
สเปคเครื่อง i-mobile รุ่น IQZ PRO
- ตัวเครื่องหนา 7.3 มิลลิเมตร หนัก 160 กรัม (หนาเท่า iPhone 6s Plus และมีน้ำหนักเบากว่าด้วย)
- ชิปประมวลผล Snapdragon 615 Octa Core ความเร็ว 1.5 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop
- รอบรับ 4G LTE 850/900/1800/2100 MHz ทุกคลื่นในไทย
- หน้าจอ Super Bright AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
- แรม 3 GB
- ความจำในตัวเครื่อง 32 GB (ใช้ได้จริง 20.51 GB)
- รองรับ microSD สูงสุด 64 GB
- กล้องหลังความละเอียด 18 ล้าน และ 2 ล้านพิกเซล (f/2.0) มาพร้อมแฟลช LED
- แต่ถ้าใช้โหมด Dual Camera ความละเอียดจะอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล
- กล้งหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.0) มาพร้อมแฟลช LED เช่นกัน
- รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, ไม่มี NFC
- แบตเตอรี่ 3,500 mAh
- รองรับ 2 ซิม (Micro sim และ Nano sim)
แกะกล่อง i-mobile IQZ PRO
ตัวกล่องมีสีขาวขนาดใหญ่พอสมควร ด้านหลังจะมีสเปคตัวเครื่องบอกไว้อย่างละเอียด ด้านข้างของกล่องจะมีเลข IMEI ของตัวเครื่องระบุไว้อย่งชัดเจน
ตัวเครื่องลักษณะจะคล้าย ๆ กับ iPhone 4 คือ ด้านหลังตัวเครื่องทำมาจากกระจก ทำให้เห็นลายนิ้วมือง่ายไปหน่อย ด้านข้างเป็นอะลูมิเนียมสีเงินมีลักษณะโค้งมนเหมือน iPhone 6/6s ส่วนความหนาของเจ้า IQZ PRO อยู่ที่ 7.3 มิลลิเมตร เรียกง่ายๆ คือจอใหญ่เท่า iPhone 6s Plus ตัวเครื่องก็หนาเท่ากับ iPhone 6s Plus แต่น้ำหนักกลับเบากว่าซะด้วย
ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power อยู่ตรงตำแหน่งนิ้วโป้งขวาพอดี ทำให้กด Sleep สะดวกมาก ด้านบนก็จะมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียงเรียวยาว ลองกดๆ แล้วก็เข้ามือดี
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง และเป็นช่องเสียบเสาอากาศเพื่อดูทีวีดิจิตอล (DTV) ด้วย
ด้านล่างมีลำโพงยาวอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านข้างเป็นช่อง microUSB ไว้เสียบชาร์จหรือโอนถ่ายข้อมูล
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นช่องใส่ซิมการ์ด และการ์ด microSD ซึ่งจะอยู่ในถาดเดียวกัน แต่ที่จริงแล้ว IQZ PRO ตัวนี้รองรับการทำงานถึง 2 ซิม ตอนแรกก็งงมากใส่การ์ด ใส่ซิมเต็มแล้ว จะเอาพื้นที่ที่ไหนใส่อีกซิมนึง จนต้องเปิดคู่มือหาว่ามันใส่ยังไง และแล้วก็ได้พบความจริงว่า เราต้องเลือกว่าเราจะใส่ซิมนาโน หรือว่าเราจะใส่การ์ดความจำลงไป คือต้องเลือกว่าจะใส่ 2 ซิม หรือจะใส่ ซิม + microSD Card
ส่วนอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่อง เรียกได้ว่าแถมเยอะมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มอีกเลย โดยในกล่องจะมีเคสยางแข็ง ๆ, สายเสาอากาศไว้สำหรับต่อดูทีวี, สายชาร์จ microUSB, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, หูฟัง, Eject Pin, ฟิล์มกันรอยพร้อมผ้าไมโครไฟเบอร์, ขาตั้งแบบแปะติดกับตัวเครื่อง, คู่มือการใช้งานมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และใบรับประกัน
ทดลองใช้งาน
สำหรับดีไซน์ถือว่าทำได้ดี ทั้งเรื่องความบางและน้ำหนัก ดูแข็งแรงทนทานกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก แต่ฟีลในการจับด้านข้างจะยังไม่รู้สึกพรีเมียมมากนัก ส่วนพื้นหลังจะแบนราบและวัสดุเป็นกระจก ก็ทำให้รู้สึกที่ดีทีเดียว
หน้าจอ Super AMOLED ละเอียดคมชัด สีสดใส สมจริง แต่ถ้ามองนาน ๆ อาจจะแสบตาได้เพราะสีสดมากจริง ๆ ส่วน Wallpaper ที่มากับเครื่อง สีสวยดีเอาไว้โชว์คุณภาพของจอได้
สำหรับ UI ของทาง i-mobile ถือว่าทำมาได้สวยดี ตามสไตล์กูเกิล การฟังเพลง เปิดเว็บ เล่นเฟสบุ๊ก ดูยูทูป หรือการใช้งานทั่วไปถือว่าลื่นใช้ได้ ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด
ลองทดลองเล่นเกมกราฟฟิกโหด ๆ อย่าง Asphalt 8 ทำได้เร็วดี ลื่นปรี๊ด ส่วนประมวลกราฟฟิกทำงานได้เร็ว บวกกับจอใหญ่ทำให้เล่นได้สนุก แต่เมื่อเล่นไปซักพักรู้สึกเครื่องร้อนเร็วเหมือนกัน
แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh .ให้มาแบบจัดเต็ม ใช้งานหนัก ๆ ได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ ถ้าใครใช้ไม่หนักมากสามารถชาร์จวันเว้นวันได้เลยเทีเดียว แถมยังมีโหมดประหยัดพลังงานแถมมาให้อีก
สำหรับมือถือ i-mobile ทุกรุ่นจะมีแอพ 2 ตัวที่จะติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องให้คือแอพแรก คือ PlayHub มันคือแอพที่รวบรวมแอพ หรือที่เรียกง่าย ๆ ก็คือเป็น Play Store ของทาง i-mobile นั่นเอง ส่วนอีกแอพหนึ่งก็คือชื่อแอพ i-mobile เลย จะเป็นแอพที่จะรวบรวมสิทธิพิเศาต่าง ๆ ของลูกค้า i-mobile และยังสามารถติดต่อหรือสอบถามปัญหาได้ รวมไปถึงรวบรวมเบอร์ติดต่อศูนย์ให้บริการหลังการขายทุกสาขาทั่วไทย
กล้องถ่ายภาพคู่ ถ่ายก่อน โฟกัสทีหลัง !!
ไฮไลท์ของ i-mobile IQZ PRO คือการที่มีกล้องหลัง 2 ตัว กล้องหลักมีความละเอียด 18 ล้านพิกเซล และกล้องอีกตัวมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งการที่มีกล้อง 2 ตัวจะสามารถใช้ฟีเจอร์ Super refocus หรือที่เรียกกันว่า ถ่ายก่อน โฟกัสทีหลัง
Super refocus เป็นโหมดที่ทำให้สามารถเลือกโฟกัสได้ทุกระยะหลังถ่าย นั่นหมายความว่าเวลาที่เราถ่ายภาพ อาจจะไม่ต้องเช็คเรื่องโฟกัสมากก็ได้ เพราะสามารถเอามาปรับทีหลังได้ด้วย
รูปแรกเป็นไฟล์ดังเดิมที่เราถ่ายมาด้วยโหมด Super refocus ซึ่งมีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล เมื่อเราไปเลือกโฟกัส โดยการแตะที่วัตถุ เครื่องก็จะประมวลผลให้ระยะอื่น ๆ เบลอ เหมือนกับการทำ Depth of Field (DOF) บนกล้องโปรฯ เลย จะเห็นว่าทีการหน้าชัดหลังเบลอตามจุดที่กดโฟกัสไป
ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเลือกโหมด Background Deco เพื่อใส่ฟิลเตอร์แยกทั้งวัตถุและ Background ได้ โดยรวมถือว่าทำได้ดี แต่ภาพที่ได้ดูมันไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กล้อง IQZ PRO ทำได้นั่นก็คือสามารถซูมแบบ Optical Zoom ได้ มันการซูมแบบที่คุณภาพของภาพไม่ลดลงไป ซึ่งปกติแล้วสมาร์ทโฟนตามท้องตลาดรวมทั้งไอโฟนด้วยจะสามารถซูมได้แบบ Digital Zoom เท่านั้น ซึ่งความละเอียดของภาพก็จะลดน้อยลงไป รูปนี้ไม่ได้ปรับแต่งสีหรืออะไรเลย อาจจะดูม่วง ๆ ไปนิดเพราะถ่ายตอนใกล้ ๆ จะ 6 โมงเย็น ฟ้ากำลังเปลี่ยนสีพอดี
กล้องของ IQZ PRO สามารถซูมแบบ Optical Zoom ได้ถึง 6 เท่า จะเห็นว่าเราสามารถซูมไปเห็นนกบนหลังได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ส่วนโหมด Slow Motion นั้นจะต่างจากไอโฟนตรงที่ ไอโฟนจะถ่ายวีดิโอด้วย fps สูง ๆ เพื่อมาทำให้ภาพนั้นช้าลง แต่ของ IQZ PRO ไฟล์ที่ได้ออกมายังคงเป็น 30 fps เหมือนเดิม แต่จะใช้ซอฟต์แวร์ในการช่วยให้ภาพช้าลง ต่อมาเป็นภาพที่ถ่ายจากกล้อง IQZ PRO ในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน โดยทำการปรับความละเอียดไปที่ 18 ล้านพิกเซล และเปิดโหมด Auto ทั้งหมด
ภาพแรก เป็นภาพแบบ Close Up ถ่ายดอกไม้ตอนเที่ยงตรง แสงเยอะถือว่าทำได้ดีมาก เก็บรายละเอียดได้ดี ระยะโฟกัสทำหน้าชัดหลังเบลอก็สวยเป็นธรรมชาติ แต่ดูเหมือนจะอมเหลืองเล็กน้อย
เป็นภาพใบไม้ช่วงบ่าย ๆ รายละเอียดในช่วงกลางวันหรือที่แสงเยอะ ๆ ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้มือถือเรือธงเจ้าอื่นเลย
ภาพนี้เป็นกำแพงบ้าน ไว้ทดสอบรายละเอียดของภาพ โดยรวมถือว่าจุดนี้ทำได้ดีเช่นกัน
ภาพนี้เป็นภาพกำแพงเมื่อกี้ แต่ลองเล่น DOF ดูบ้าง ตอนถ่ายแตะโฟกัสตรงกลางชัด ด้านข้างละลายได้ดี เรื่อง DOF ก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน
เป็นภาพกล้วยไม้ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น ตรงนี้ไม่มีแสงแดดส่องลงมาตรง ๆ แสงน้อย ถือว่ายังทำได้ดี
ภาพนี้เป็นภาพช่วงเย็นประมาณ 5 โมงครึ่ง (ไม่ย้อนแสง) ดูเหมือนสีจะอมเหลืองเยอะพอสมควร รายละเอียดส่วนมืดเริ่มไม่ค่อยเห็น เมื่อมีแสงน้อย แต่ก็ยังถือว่าโอเครับได้
ภาพนี้เป็นการถ่ายย้อนแสงตรง ๆ สู้กับดวงอาทิตย์เลย ภาพนี้เหมือนจะอมเหลืองมากกว่าปกติเล็กน้อย มี Flare เป็นแฉก ๆ สวยงาม (แล้วแต่คนชอบ) โดยรวมถือว่ายังโอเคใช้ได้ เพราะยังพอเห็นรายละเอียดอยู่บ้าง
ลองถ่ายเจ้าหมาน้อยดูบ้าง ปรากฏว่าพบปัญหาในการถ่ายอย่างมาก คือความเร็วชัตเตอร์ทำได้ช้ามาก ทำให้การถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาทำได้ยากมาก เบลอแทบทุกรูป แต่ยังได้รูปนี้มาเพราะว่าเจ้าหมาหยุดยืนให้ถ่ายนิ่ง ๆ
ภาพนี้เป็นภาพเลนส์ภายในตัวบ้าน ถือว่าโอเคเลยทีเดียว เห็นรายละเอียดชัดเจน แม้แต่ฝุ่นบนตัวเลนส์ก็ตาม
และสุดท้ายเป็นการทดสอบกล้องหลัง นั่นคือการถ่ายในช่วงกลางคืน พบว่า IQZ PRO มืดมาก มองไม่เห็นอะไรเลย แต่เมื่อลองเปิดแฟลชยิงเข้าไป กลับช่วยชีวิตอย่างมหัศจรรย์ แสงแฟลชเหมือนทำให้ภาพสีสมจริงกว่าไอโฟน ของไอโฟนจะดูอมเหลืองไปนิดนึง
ทดสอบดูดิจิตอลทีวี (DTV)
และฟีเจอร์สุดท้ายเป็นฟีเจอร์ที่ชูโรงคู่กับแบรนด์ i-mobile มาตลอดนั่นคือ ดูทีวีได้ ซึ่งล่าสุดทาง i-mobile ได้อัพเกรดการดูทีวีให้เป็นดิจิตอลทีวีบนมือถือได้แล้ว
วิธีการดูทีวีก็ง่าย ๆ เพียงแค่เสียบเสาอากาศที่แถมมาให้ในกล่องจากนั้นเข้าแอพ DTV จากนั้นกดสแกนสถานีทีวี โดยให้เราเลือกประเทศไทยเพียงแค่นี้ก็สามารถรับชมทีวีแบบชัด ๆ ได้ทันที
สิ่งที่ชอบก็คือ สแกนสถานีเจอทั้งหมด 24 สถานี ซึ่งชัดทุกช่อง เวลาเปิดดูไม่จำเป็นต้องเสียบหูฟังก็ได้ สามารถเปิดลำโพง และอีกอย่างที่ชอบมากก็คือสามารถกดอัดรายการทีวีไว้ดูย้อนหลังในเครื่องได้ทันที มันเจ๋งมาก
โดยรวมถือว่าปลื้มกับฟีเจอร์นี้พอสมควร เพราะทีวีมันชัดมาก ชัดกว่าการสตรีมดูบนอินเตอร์เน็ตเสียอีก แถมบางช่องยังแสดงเวลารายการที่กำลังออกอากาศอยู่ รวมไปถึงแสดงรายการต่อไปด้วย แต่ข้อเสียของฟีเจอร์นี้ก็คือ ดูในร่มไม่ค่อยได้ ไม่ว่าจะในห้าง ในห้องนอน หรือที่อับสัญญาณทั้งหลายสัญญาณทีวีจะอ่อนมาก ทำให้ดูแล้วภาพขาด ๆ หาย ๆ กระตุก ซึ่งบางครั้งสแกนไม่เจอซักสถานี
:: สรุป ::
ข้อดี
- ดีไซน์สวย วัสดุดีใช้ได้ จับถนัดมือ จอ 5.5 นิ้ว ใหญ่สะใจ
- ของแถมเพียบ เคส, ฟิล์มกันรอย, ขาตั้ง ให้มาฟรีในกล่อง
- กล้องถ่ายรูป 18 ล้านพิกเซล ถ่ายก่อนโฟกัสทีหลังได้
- แบตให้มาเยอะมากถึง 3,500 mAh
- ดูดิจิตอลทีวีแบบภาพคมชัด ไม่ต้องใช้เน็ต
- ราคา 11,900 บาทเทียบกับสเปคที่ให้ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
ข้อเสีย
- โหมด Slow Motion ทำให้ช้าได้สวยงามดี แต่ความละเอียดน้อยไปนิดที่ 480p
- ความละเอียดของ Panorama ยังไม่ละเอียดเท่าที่ควร
- แนวคิด Super refocus เจ๋งดีแต่ยังดูไม่สมจริงมากนัก น่าจะพัฒนาไปได้อีกมาก
จากการทดลองใช้งานมาซักระยะ พบว่ามือถือขนาดจอ 5.5 นิ้วที่มันใหญ่เท่ากับ iPhone 6s Plus มันใหญ่สะใจจริง ๆ มีเวลาเล่นเกม เล่นเฟสบุ๊กหรือคลิปวิดีโอต่าง ๆ บวกกับจอชัด สีสดใส จัดว่าแจ่มมาก รวมถึงภาพถ่ายจากกล้องหน้าและกล้องหลังของ IQZ PRO ก็จัดว่าดีมาก คมชัดจริง ๆ ต้องยอมรับ แถมมีลูกเล่นให้เลือกเยอะอีกด้วย
ส่วนจุดด้อยก็คงจะเป็นเรื่องของฟีเจอร์ไฮไลท์ที่มากับกล้องคู่ บางอย่างก็มีแนวคิดที่ดูน่าสนใจดี แต่อาจจะต้องพัฒนาซอฟแวร์เพิ่มอีกหน่อย เชื่อว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เจ๋งมากอีกตัวนึงเลยทีเดียว
โดยสรุปแล้ว i-mobile IQZ PRO คุณภาพและสเปคถือว่าสู้กับมือถือระดับเรือธงได้เลย รองรับ 4G LTE ทุกคลื่นในไทย กับราคาเปิดตัวเพียง 11,900 บาทถือว่าคุ้มดีเหมือนกันนะ ใครที่มองมือถือระดับกลาง ๆ มีฟีเจอร์เยอะ ดูทีวีได้ IQZ PRO เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
[Advertorial]