รีวิว: แพ็คเกจคลอดบุตรที่โรงพยาบาล BNH ค่าบริการ, ห้องพัก, ดีงามสมราคาหรือเปล่า

เชื่อว่าคำถามแรกหลังจากที่หลายคนทราบว่ากำลังจะมีลูกน้อยคือ “จะคลอดที่โรงพยาบาลไหนดี ?”

บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ผมก็คิดง่ายๆ ว่าทุกโรงพยาบาลก็คงเหมือนๆ กันหมดแหล่ะ คลอดที่ไหนก็ได้ แต่หลังจากศึกษาหาข้อมูล รวมถึงปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์รอบตัวแล้ว พบว่าแต่ละโรงพยาบาลก็มีอะไรที่แตกต่างกันเยอะเหมือนกันนะ

นอกจากนั้นก็มีเรื่องของราคา คือสมัยนี้แพ็คเกจคลอดบุตรก็มีให้เลือกทั้งแบบคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด แล้วก็มีรายละเอียดยิบย่อยอีกเยอะมาก ซึ่งสุดท้ายแล้วผมกับภรรยาก็เลือกโรงพยาบาล BNH (Bangkok Nursing Home) สุดท้ายแล้วออกมาดีงาม สมราคาแค่ไหน ลองมาชมกัน

อ่านเพิ่ม – น้องวชิ Fanpage

ทำไมถึงเลือก BNH ?

คำถามยอดฮิตเลยคือทำไมถึงเลือกรพ. BNH เพราะหลังจากที่ปรึกษาหลายต่อหลายคนก็มักจะได้ยินคำบอกเล่าเกี่ยวกับ BNH เหมือนกันว่า “ดี …​ แต่แพง”

  • ผมและภรรยานัดเข้าไปดูแพ็คเกจคลอดบุตรที่รพ. BNH ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็นัดวันและก็พาชมห้องอย่างดี พาไปดูทั้งห้องคลอด ห้องเตรียมตัว ห้องพักทั้งแบบเล็ก กลาง ใหญ่
  • เนื่องจากพี่ๆ ที่บ้านทุกคนก็เลือกคลอดน้องที่ BNH หมด ก็เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นี่อยู่แล้ว
  • หลังจากเจ้าหน้าที่พาทัวร์รอบแล้ว ก็มาคุยเรื่องราคา ซึ่งก่อนมาผมก็ตั้งงบในใจเอาไว้ว่าถ้าเกินแสนบาทคงไม่ไหวเหมือนกัน
  • “สำหรับค่าแพ็คเกจผ่าคลอดในปีนี้ (2558) นะคะ … ไม่ถึงแสนค่ะ … ทั้งหมดอยู่ที่ 99,900 บาทค่ะ <3” เจ้าหน้าที่พูดเสร็จมีแอบยิ้มให้ ไม่ถึงแสนจริงๆ ด้วย -____-“
  • ย้ำว่าอันนี้คือราคาเมื่อปี 2558 นะครัช ควรตรวจสอบกับทางรพ.ก่อนว่าปีนี้ขึ้นมาเท่าไหร่แล้ว อิๆ
  • ซึ่งต้องบอกเหตุผลที่เลือกอันดับ 1 เลยคือเลือกเพราะต้องการคลอดกับคุณหมอเยื้อน ซึ่งเราฝากครรภ์ไว้ตั้งแต่แรก และคุณหมอเยื้อนเองก็มีรพ.ให้เลือกไม่มากนัก BNH ก็เป็นหนึ่งในนั้น
  • แต่ละรพ.มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งทื่ BNH ดังสุดก็คือเรื่องการคลอดบุตรและการดูแลเด็กนี่แหล่ะครับ
  • สถานที่ตั้งอยู่กลางเมือง คือแถวสีลม เพื่อนๆ มาเยี่ยมได้ง่าย ขนาดโรงพยาบาลไม่ใหญ่มากนัก ที่จอดรถเพียงพอ
  • ชื่อเสียงของโรงพยาบาลก็มีผลมาก เพราะของเค้าดังจริง ถามใครก็บอกเลยว่าคลอดที่ BNH สบายใจได้ ใครๆ ก็มาที่นี่ และพี่ๆ ก็เคยมาที่นี่มาก่อน
ซึ่งหลังจากที่นั่งเคาะเครื่องคิดเลข พร้อมปาดเหงื่ออยู่หลายรอบ สุดท้ายเราก็ตกลงเลือกที่ BNH จ้า คือพอคิดซะว่านี่คือเรื่องสำคัญมากที่สุดครั้งนึงในชีวิตของเราสองคน ขนาดงานแต่งงานยังใช้เงินมากกว่านี้อีก คลอดลูกในราคาประมาณแสนบาท ก็น่าจะคุ้มค่าและได้ความสบายใจ

รีวิวแพ็คเกจคลอดบุตรที่ BNH

สำหรับบรรยากาศหรือรายละเอียดต่างๆ ในการคลอดบุตร สามารถอ่านได้จากบล็อกตอนเก่าเลยฮะ
ซึ่งในการรีวิวนี้ จะเน้นเรื่องของมุมมองคนที่มาใช้บริการ ความคุ้มค่า รายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจ เผื่อเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังมองหาสถานที่คลอดบุตรอยู่นะครับ

การเลือกห้องพัก
  • ห้องพักมีให้เลือก 3 แบบ คือเล็ก กลาง ใหญ่ ซึ่งผมเลือกแบบเล็กสุด ก็จะได้ตามราคาในแพ็คเกจ
  • ขนาดห้องก็ใหญ่พอที่จะมีญาติๆ มาเยี่ยมได้ เคยมีคนมาเยี่ยมพร้อมกันมากสุด 15 คนก็เข้ามาถ่ายรูป เม๊ามอยกันได้ครบ
  • เตียงคนไข้ยกขึ้นลง ปรับได้หลายระดับ ใช้ระบบ Auto มีรีโมทให้กดที่ข้างเตียง เวลาดันขึ้นมาเพื่อทานข้าวก็สบายดี คุณแม่จะได้ไม่เจ็บแผลมาก
  • ที่ห้องมีเครื่องกรองอากาศให้ด้วย เผื่อลูกเข้ามาแล้วอึ หรือมีกลิ่นอะไรแปลกๆ ก็กดปุ่ม กลับมาหอมเลยจ้า
  • ตรงข้ามเตียงจะมีทีวีจอแบน ขนาดเล็กไปหน่อย 32 นิ้ว ของ Panasonic ไม่ทราบสเปคเครื่อง (เอ๊ะ นี่จะรีวิวรพ.หรืออุปกรณ์ไอที)
  • ด้านข้างทีวีก็มีช่องเสียบ AV, HDMI และใส่ SD Card ได้ ที่ให้ดูตรงนี้เพราะผมพบว่าการมีช่อง SD Card คือดีมาก เพราะเวลาเพื่อนๆ มาเยี่ยม ผมก็เอา Card ที่มีรูปตอนคลอดมาเปิด Slideshow วนไปมาบนทีวีได้ ใครมาก็ดูรูปกันไป คุยกันไป เพลินดี
  • เตียงคุณพ่อ เอ๊ย โซฟาสำหรับคนที่มาเยียมก็ขนาดใหญ่ดี คุณพ่อนอนเฝ้าได้สบาย เบาะนิ่ม หมอนนุ่ม
  • อุปกรณ์อื่นๆ ในห้องก็มีครบทั้งตู้เย็น, เตาไมโครเวฟ, จาน, ช้อนส้อม, ทิชชู่, ผ้าเช็ดทำความสะอาด ฯลฯ
  • ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กไปนิดนึง ถ้ามีญาติเฝ้าหลายคน หลายวัน อาจจะไม่ค่อยพอ
  • น้ำเปล่ามีให้เยอะมาก และสามารถเบิกได้เรื่อยๆ ไม่อั้น แขกมาเยี่ยมก็ให้ทานน้ำเราได้ อันนี้ดีนะ ไม่งก
  • ห้องพักมีม่านขนาดใหญ่มาก เวลาคุณแม่ต้องเช็ดตัวหรือตรวจร่างกาย ก็ปิดได้มิดดีครับ
  • ห้องน้ำไม่ใหญ่ไม่เล็ก ดูสะอาดตา เดินเข้าออกสะดวก
  • โดยรวมถือว่าห้องพักบรรยากาศดีครับ เหมือนอยู่โรงแรม ขนาดเล็กสุดก็พอสำหรับใครที่ญาติหรือเพื่อนไม่ได้มาเยี่ยมเยอะมากนัก
  • ข้อเสียคือถ้าเราได้ห้องที่อยู่ใกล้กับทางเข้า จะเสียงดังจากข้างนอกเข้ามาได้ เพราะตรงทางเข้าเป็นห้องสำหรับดูน้องที่เพิ่งคลอด แนะนำถ้าอยากได้ความสงบขอจองห้องด้านใน (แต่คุณแม่ก็จะเดินไปมาไกลขึ้น)

ก่อนวันคลอด
  • เนื่องจากพวกผมเลือกเป็นแพ็คเกจผ่าคลอด ซึ่งจะได้พัก 4 วัน 3 คืน
  • แต่มีเทคนิคพิเศษ คือถ้าเราเลือกคลอดตอนเช้า ทางโรงพยาบาลจะให้สิทธิมานอนที่โรงพยาบาลได้ก่อน 1 คืนฟรี นั่นหมายความว่าเราจะได้นอนที่รพ. 4 คืนเลย (พวกผมเลือกผ่าคลอดเวลา 9.09 น.)
  • อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวก็ควรเตรียมมาให้ครบ โดยทางรพ.ให้ Check-in ได้หลัง 2 ทุ่มเป็นต้นไป
  • คืนก่อนคลอดพวกผมก็ขับรถกันมา ถึงทางเข้าก็มีเข้าหน้าที่เอารถมาช่วยยกกระเป๋าให้ บรรยากาศเหมือนไปนอนโรงแรมเลย 555
  • เจ้าหน้าที่ตรวจข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อย ก็เข้ามาที่ห้องแล้ว หลังจากนั้นพยาบาลก็จะมาอธิบายเพิ่มเติม ซึ่งว่าที่คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ในอาการตื่นเต้นจนฟังไม่รู้เรื่องล่ะจ้า
  • มีเรื่องน่าตกใจคือแหวนหมั้นที่เชอรี่ใส่เอาไว้ที่นิ้วไม่สามารถดึงออกมาได้ คือนิ้วบวมเนื่องจากท้อง เลยทำให้แหวนคับมาก พยายามดึงออกทุกท่าแล้ว พยาบาลมาช่วยก็แล้ว ยังเอาออกไม่ได้
  • ซึ่งจะเป็นปัญหาถ้าใส่เข้าห้องผ่าตัด สุดท้ายพยาบาลเลยเอาอุปกรณ์มาพันแหวนไว้แทน ซึ่งกว่าจะพันเสร็จก็นานอยู่
วันคลอด
  • ถึงวันคลอดจริง พยาบาลก็เข้ามาปลุกตั้งแต่ 6 โมงเช้า
  • ก่อนคลอดก็จะมีการเตรียมตัวคุณแม่หลายอย่าง จนช่วงเกือบ 8 โมงก็มีเจ้าหน้าที่เข็นเตียงมา แล้วก็ค่อยๆ ให้เชอรี่ขยับไปนอนอีกเตียงนึง
  • การเคลื่อนย้ายคุณแม่เป็นอะไรที่ผมคอยระวังมาก โดยเฉพาะช่วงหลังคลอด เพราะกลัวมีใครมาทำอะไรให้คนที่เรารักต้องเจ็บ ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าเจ้าหน้าที่ของ BNH ดูแลตรงนี้ได้ดีมาก ทุกครั้งเจ้าหน้าที่ พยาบาลจะมาช่วยกันหลายคนมาก ดูใส่ใจดี
  • ห้องผ่าตัดจะอยู่คนละชั้นกับห้องพัก ก็ต้องเข็นกันไปนิดหน่อย ส่วนขั้นตอนการบล็อคหลัง เห็นเชอรี่บอกเจ็บเหมือนกัน แต่ก็กลัวมากกว่าจนหายเจ็บ #แป่ว
  • สำหรับคุณพ่อ จะมีห้องพิเศษให้ไปเปลี่ยนชุดและนั่งรอจังหวะ พอใกล้ผ่าคลอดแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปในห้อง
  • บรรยากาศห้องผ่าตัด ก็ดูเป็นห้องผ่าตัดนั่นแหล่ะ ใครไม่เคยเข้าไปก็มีอารมณ์น่ากลัวบ้าง
  • ช่วงที่ผ่าคลอด คุณหมอเยื้อนก็ช่างดูอารมณ์ดี๊ดี เม๊ากับพยาบาลไปเรื่อยๆ คุยกับหมอสุธีรากันสนุกสนาน แต่อีตาคุณพ่อคุณแม่นั่งกุมมือกันอยู่โคตรกลัวเลย >___<
  • หมอเยื้อนพร้อมตั้งแต่ 9 โมงละ แต่พยาบาลบอกเรามีฤกษ์คลอดอยู่ที่ 9.09 น. คุณหมอก็ยืนคุยกับผู้ช่วยอย่างใจเย็น อารมณ์ดี๊ดี~* แต่สองคนที่กุมมือกันอยู่นี่กลัวจะแย่อยู่แล้วค๊าบบบบ
  • ช่วงผ่าใช้เวลาแป๊บเดียวมากๆ ก็ได้ยินเสียงเจ้าตัวน้อยร้องอุแว๊ๆ ออกมาแล้ว คุณหมอสุธีราก็เข้าไปตรวจดู แล้วมาแจ้งว่าน้องสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาอะไร ว่าแล้วก็ให้คุณพ่อออกจากห้องไปพร้อมกับน้อง ส่วนคุณแม่ก็อยู่ในห้องต่ออีกซักพัก
  • ผมก็ได้มาถ่ายรูปลูกน้อยที่ห้องเด็ก พยาบาลก็แนะนำอะไรหลายอย่าง ก่อนจะกลับมารอเชอรี่ที่ห้องพัก

หลังคลอด
  • ผมว่าการดูแลช่วงคลอดสำคัญแล้ว แต่ช่วงการดูแลหลังจากคลอดสำคัญกว่าซะอีก
  • สำหรับอาหารที่คุณแม่ได้ทานก็จะมีตั้งแต่อาหารเหลวในช่วงแรก 
  • หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นโจ๊ก, ข้าวต้ม แล้วก็อาหารที่หนักขึ้นจนเป็นเหมือนกินข้าวปกติ ถามเชอรี่ว่าอร่อยไหม ? ก็ได้คำตอบว่า “อร่อยมาก” ทุกมือ ซัดโฮกไม่มีเหลือ
  • ช่วงหลังจากคลอด พยาบาลก็จะพาน้องวชิมาให้นมที่ห้องเรื่อยๆ เพราะที่ BNH จะเน้นเรื่องนมแม่เป็นหลัก คุณหมอสุธีราจะไม่ให้เราใช้นมผงหรือนมอื่นๆ เลย
  • เป็นอีกเหตุผลนึงที่เราเลือก BNH นี่แหล่ะครับ ที่นี่ส่งเสริมเรื่องนมแม่เต็มที่เลย
  • ช่วงแรกเชอรี่ก็ไม่ค่อยมีน้ำนม ส่วนน้องวชิก็ดูดนมไม่ค่อยเป็น แต่พยาบาลกับคุณหมอก็ช่วยเราจนน้องวชิดูดนมได้ เชอรี่ก็มีน้ำนมให้ลูกทาน
  • ด้านหน้าลิฟท์ก็จะมีห้องที่เราขอเรียกชมลูกได้ กดออดด้านหน้าแล้วก็แจ้งว่าอยากดูน้องชื่ออะไร พยาบาลก็จะเข็นน้องมาให้เรา หรือญาติๆ ชมได้ที่ริมหน้าต่าง
  • บริเวณนี้ก็มีที่นั่งยาวๆ มีน้ำบริการ ใครที่เพื่อนฝูงเยอะก็ไม่ต้องห่วง
  • สำหรับคุณพ่อที่เฝ้าภรรยา ก็ไม่ต้องกลัวอดอยาก เพราะที่รพ.ก็มีอาหารให้สั่งมาทานที่ห้องได้ ราคาก็ไม่ได้แพงมาก อร่อยสะอาดดี
  • ทำเลของโรงพยาบาลอยู่กลางเมือง ก็เดินไปห้างสีลมคอมเพล็กส์, ร้านอาหาร, Starbucks หรือขึ้น BTS ศาลาแดงได้ เดินไปไม่เกิน 3 นาที
  • ข้อเสียคือรถติดช่วงเช้ากับเย็น โดยเฉพาะช่วงเลิกเรียนที่ซอยคอนแวนต์รถติดเอามากๆ
  • ก่อนจะ Check Out ออกก็จะมีทีมงานพยาบาลเข้ามาสอนหลายอย่างเลย ทั้งการเตรียมตัว การดูแลลูก รวมถึงการดูแลตัวเองของคุณแม่ด้วย 
  • มีเรื่องการนัดพาน้องมีฉีดวัคซีน ซึ่งกลับไปสนุกกับการเลี้ยงลูก 2-3 วันก็ต้องกลับมารพ.พามาฉีดวัคซีนแล้ว
  • หลังจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาคุยเรื่องการชำระเงิน ซึ่งก็มีเครื่องรูดบัตรแบบไร้สายมาให้รูดปรื๊ดดดด ถึงห้องกันเลยทีเดียว ตัวเบาหวิวออกจากรพ.ทันที~*
  • สรุปแล้วราคาทั้งหมดอยู่ที่ 99,900 บาท ของคุณแม่และลูกครบเลยไม่มีบวกเพิ่ม แต่มีค่าข้าวที่ผมสั่งเองอีกไม่กี่ร้อยบาทเพิ่มเข้ามา
  • ก่อนกลับบ้าน ได้ของแจกจากสปอนเซอร์ที่ทางรพ.ได้มา มีตั้งแต่ผ้าอ้อม, ขวดนม, แชมพู, แปรงสีฟัน, สบู่เด็ก ฯลฯ อันไหนมีแล้วหรือไม่ได้ใช้ก็นำไปแจกหรือบริจาคได้นะ
  • เจ้าหน้าที่มาช่วยขนของตั้งแต่หน้าห้องจนถึงประตูรถเลย

:: สรุป ::

ข้อดี

  • โรงพยาบาลคนไม่เยอะมาก ห้องพักดูดี สะอาด เหมือนนอนโรงแรม
  • อยู่กลางเมืองเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT
  • เจ้าหน้าที่และคุณหมอ มีชื่อเสียงด้านการดูแลคุณแม่และเด็กอยู่แล้ว อุ่นใจ
  • เน้นเรื่องการให้นมแม่ 100% 

ข้อเสีย

  • ราคาสูง หากลูกป่วยค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นไปอีก
  • โรงพยาบาลค่อนข้างฮอต ถ้าช่วงฤกษ์ดีต้องจองล่วงหน้า
  • อยู่ย่านธุรกิจ รถติดในช่วงเร่งด่วน
โดยสรุปแล้วประสบการณ์ผ่านคลอดที่โรงพยาบาล BNH ถือว่าดีงาม ทั้งในเรื่องของการบริการ ห้องพักหรืออุปกรณ์ต่างๆ ถือว่า 5 ดาวมากๆ ด้วยความที่รพ.มีชื่อเสียงด้านการดูแลแม่และเด็กอยู่แล้ว
ข้อเสียหลักๆ คงอยู่ที่ราคา ซึ่งแตะระดับแสนบาท รวมถึงถ้ากรณีเด็กมีปัญหาอื่นๆ ค่าใช้จ่ายก็จะพุ่งแบบสูงปรี๊ด แต่ถ้ามองว่าเราเองก็ไม่ได้มีลูกบ่อยๆ บางทีก็ถือว่าเป็นการซื้อความอุ่นใจและบริการที่ดี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเน้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นหลัก ที่ BNH ก็ขึ้นชื่อด้านนี้เช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของการดูแลลูกหลังคลอดด้วย ซึ่งจากที่ได้สัมผัสและใช้บริการจริง ก็คงต้อบอกว่า ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ถือว่าแนะนำครับ
อ่านเพิ่ม