iRobot ถือเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่โด่งดังที่สุดในโลกตัวหนึ่ง เพราะนอกจากคุณภาพและความทนขั้นเทพ ก็ยังมีการออกรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นไปทุกปี
ซึ่งล่าสุด iRobot Roomba 980 ก็มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำมากมายทีเดียว ทั้งการเชื่อมต่อ WiFi, รองรับการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน, ระบบดูดขั้นเทพสะอาดกว่าเดิม พร้อมกล้องสร้างภาพจำลองห้องในตัว
[Advertorial]
แกะกล่อง iRobot Roomba 980
สำหรับ iRobot รุ่น Roomba 980 นี้ถือเป็นตัวท็อปสุดของทุกรุ่นที่มี โดยตัวกล่องมีขนาดใหญ่พอๆ กับเครื่องเลย ลองมาแกะกล่องกันดีกว่า เปิดมาข้างในก็ประกอบไปด้วย
- หุ่น iRobot Roomba 980 พร้อมแบตเตอรี่ Li-ion
- แท่น Home Base สำหรับชาร์จไฟ
- แท่นผนังจำลอง (Virtual Wall) 2 อัน พร้อมถ่าน AA 4 ก้อน
- ฟิลเตอร์กรองอากาศเพิ่มมาอีก 1 อัน
- คู่มือการใช้งาน
หุ่น iRobot มีน้ำหนักประมาณ 3.95 กิโลกรัม หนักเหมือนกันนะ แต่มีตัวยกที่ด้านบนเครื่องก็ช่วยดึงแล้วยกไปมาในบ้านได้สบายขึ้น
ทดลองใช้งาน กับฟีเจอร์ใหม่ รองรับ WiFi, สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน
เมื่อถามตัวเอง ปกติก็ไม่ได้กวาดบ้านทุกวัน หรือดูดฝุ่นที่พื้นทุกวัน การมีหุ่นยนต์ที่คอยทำความสะอาดอัตโนมัติก็ช่วยประหยัดแรงไปได้เยอะ แม้ในวันที่เราไม่สะดวกทำความสะอาดก็ตาม
เริ่มต้นด้วยการทดลองเอา iRobot มาวางในห้อง แล้วก็กดปุ่มทำความสะอาด แล้วก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก ปล่อยให้เจ้าหุ่นยนต์เดินทำความสะอาดบ้านจนทั่ว จากนั้นก็ลองเอามาเปิดดู โอ้โห แทบเป็นลม ฝุ่นเยอะมากกกกก
สำหรับการใช้งาน ก็แค่กดปุ่มตรงกลางทีเดียว เจ้าหุ่นก็เดินไปทั่วบ้านทันที เสียงของเครื่องดังพอสมควร ถ้ามีเด็กอยู่บ้านอาจจะให้ทำงานเวลาที่ไม่มีคนอยู่ เพราะเดี๋ยวเด็กจะตื่นได้ถ้านอนกลางวัน
ฟีเจอร์เด็ดของรุ่น Roomba 980 คือสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน WiFi ได้ด้วย โดยการติดตั้งก็ทำได้ไม่ยากแค่มี WiFi ที่บ้านก็เชื่อมต่อกันได้เลย หลังจากนั้นก็โหลดแอพ iRobot Home มีทั้งบน iOS, Android
ภายในตัวแอพเราสามารถสั่งใช้งานหุ่น iRobot จากระยะไกลได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสั่งให้ทำความสะอาดหรือให้กลับเข้าไปที่ฐาน
นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งเวลาให้เครื่องทำงานได้ตลอดทั้ง 7 วัน ว่าจะให้เครื่องตื่นขึ้นมาทำงานตอนกี่โมง ซึ่งถ้าเราออกไปทำงานนอกบ้าน ก็สั่งให้ทำงานช่วงที่ไม่อยู่บ้านได้
แรงดูด AeroForce เพิ่มความแรงดูดมากกว่าเครื่องรุ่นปกติถึง 10 เท่า แถมที่ฉลาดกว่าคือตัวเครื่องจะรู้ด้วยว่าตอนนี้อยู่บนพรม ก็จะเพิ่มแรงดูดแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องคอยกดเลือกโหมดอะไรเลย
ทดลองให้เดินผ่านพรม ก็เดินผ่านได้สบายๆ พรมไม่ติดเครื่องตามไปด้วย ความฉลาดอีกอย่างคือ Roomba 980 จะมีกล้องติดอยู่ที่ด้านบนของเครื่องด้วย คือนอกจากเครื่องจะเดินไม่ซ้ำทางเดิมแล้ว ยังสร้างภาพจำลองของทั้งห้องเราได้ชัดขึ้น ทำให้วิ่งได้ทั่วห้องในทุกจุดจริง
กดปุ่ม Home หรือเวลาที่แบตจะหมดก็จะเดินกลับไปที่ฐานเพื่อชาร์จไฟเองอัตโนมัติ ไม่ต้องทำอะไรเลย
ตัวเครื่องมีขนาดสูงประมาณ 9.2 เซนติเมตร สามารถเดินมุดใต้โซฟาได้ ไปในจุดที่เราไม่ค่อยได้ทำความสะอาดถึง
ตัวล้อของเครื่องรองรับพื้นผิวสูงต่ำได้ เดินผ่านสายไฟ ผ่านพรมได้ ไม่ดูดสายไฟขึ้นมาด้วย หรือเดินเข้าไปที่มีผ้าม่านก็เดินต่อไปได้ ไม่หยุดนึกกว่ากำแพง หลังจากเดินผ่านจุดไหนที่มีฝุ่น, ทราย หรือสิ่งสกปรกเยอะ ตัวเครื่องจะไปหน้าไปหลัง ดูดให้ละเอียดจนกว่าจะสะอาด อันนี้ถือว่าดีงาม
ส่วนที่ยากสุดสำหรับหุ่นยนต์ส่วนใหญ่คือใต้โต๊ะกินข้าว ที่มีเก้าอี้เยอะๆ แต่ก็ยังเดินซิกแซกไปมาได้
อุปกรณ์ผนังจำลอง สามารถวางไว้ได้ทั้งตามทางที่ไม่ต้องการให้เครื่องวิ่งผ่านไป เช่นประตู พอเครื่องไปเจอผนังจำลองก็จะเดินกลับมาเอง
หรือวางผนังจำลองในโหมดห้ามเดินมาเป็นบริเวณโดยรอบได้ เช่นที่บ้านผมมีเครื่องฟอกอากาศ ก็วางผนังจำลองไว้ พอเครื่องเดินมา ก็จะอ้อมเครื่องฟอกอากาศไว้เลย
แอพบนสมาร์ทโฟนบอกได้ด้วยว่าเครื่องทำงานในช่วงไหนไปบ้าง แล้วทำความสะอาดไปกี่ตารางเมตร รวมถึงแจ้งด้วยว่าเครื่องต้องทำความสะอาดแล้วหรือยัง
แบตของเครื่องใช้ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งถ้าบ้านไม่ได้ใหญ่มากก็ทำงานได้ทั่วอยู่แล้ว หรือถ้าบ้านใหญ่มากจริงๆ หุ่นจะเดินกลับมาที่ Home Base เพื่อชาร์จแบตก่อนหมดจนเต็ม แล้วค่อยกลับไปทำงานที่ค้างต่อได้ อันนี้คือเจ๋งมากอ่ะ
สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย ดึงยางออกมาฉีดน้ำ ใช้ผ้าหมาดเช็ดทำความสะอาดปล่อยให้แห้งก็ใช้งานต่อได้เลย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ
- สามารถตั้งเวลาได้ว่าในแต่ละวันจะทำความสะอาดช่วงเวลาเท่าไหร่ของแต่ละวัน เช่นวันธรรมดาทำช่วงบ่าย วันหยุดให้ทำช่วงเช้า
- เลือกให้วิ่งวนเป็นวงกลม แล้วขยายวงขึ้นเรื่อยๆ ได้ (Spot)
- มีระบบป้องกันการตกบันไดด้วย เวลาเจอทางต่างระดับ ก็จะหยุดแล้วเดินกลับไปเอง
- ราคาของ iRobot รุ่น Roomba 980 อยู่ที่ 39,800 บาท
- ส่วนรุ่น Roomba อื่นๆ ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 18,500 บาท ขึ้นไป
:: สรุป ::
ข้อดี
- เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ฉลาดมาก รู้การเข้ามุม เข้าซอก เน้นจุด ไปทุกมุมของบ้านได้จริง
- ใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้ผ่าน WiFi, สั่งงาน, ตั้งเวลา, เช็คความสะอาดเครื่องได้
- ดูดพื้นพรมหรือพท้นหน้าได้ดีขึ้น แรงดูเพิ่มกว่าเดิม 10 เท่า
- ฉลาดในการเดิน รู้เส้นทาง จดจำรายละเอียดในห้องได้ดี
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง ถ้างบไม่พออาจะเลือกรุ่นเล็กลงได้
- เสียงดังพอสมควร แลกกับแรงดูดที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ
- ตัวเครื่องหนักและขนาดหนากว่าเดิม
ประสบการณ์ใช้งาน iRobot Roomba 980 ก็ต้องยอมรับว่าเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ฉลาดที่สุดและครบเครื่องด้านฟีเจอร์มากสุดในตลาดตอนนี้ ทั้งการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน, แรงดูดที่มากขึ้น, ระบบจำลองห้อง ทำให้เดินได้ฉลาดมากจริงๆ
แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงพอสมควร ซึ่งก็ถือเป็นรุ่นท็อปที่ราคามาตามฟีเจอร์ที่ได้นั่นเอง ซึ่งถ้าใครที่มองหาหุ่นทำความสะอาดที่ใช้งานได้ครบเครื่อง แข็งแรงทนทาน ใช้งานไปได้ยาวๆ ก็ลองมอง Roomba 980 เป็นตัวเลือกได้ครับ