บริษัท “จัดหาคู่” สำหรับคนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นธุรกิจที่ดูลึกลับ ซับซ้อน เพราะเราก็ไม่ได้เห็นบริษัทลักษณะนี้ตามท้องถนนทั่วไป รวมไปถึงความเชื่อที่ว่าการมาใช้บริการต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือบางคนก็อายที่จะต้องพูดถึงการใช้บริการจัดหาคู่
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตั้งแต่มีหลายรายการทีวีที่ให้คนโสดได้โอกาสกล้าแสดงออกถึงการเป็นคนโสดมากขึ้น รวมถึงการหาคู่ที่เข้ากับเรา ก็ดูเป็นเรื่องน่ารักๆ และเป็นธรรมชาติ เปิดเผยได้มากขึ้น
ซึ่งเบื้องหลังนั้น เราอาจจะเคยได้ยินว่าสาวๆ หรือหนุ่มๆ ในรายการจะสมัครเข้ามาผ่านทางบริษัทที่ชื่อว่า MeetNLunch (มีท แอนด์ ลันช์)
โดยส่วนตัวผมก็ได้รู้จักกับเจ้าของบริษัทซึ่งก็คือคุณนิกกี้ แม่สื่อชื่อดังแห่งยุค ได้ให้โอกาสพาเข้าไปดูเบื้องหลัง เบื้องหน้า ว่าจริงๆ แล้วบริษัทจัดหาคู่เนี่ย มีหน้าตาเป็นยังไงกันนะ !?
พาชมออฟฟิศกามเทพ จัดหาคู่รักมาแล้วกว่า 20,000 เดท !!
ออฟฟิศของ MeetNLunch ก็อยู่ไม่ไกล ที่ตึกอัมรินทร์พลาซ่า ติด BTS ชิดลมนี่เอง เดินเข้าไปถึงก็จะพบกับพนักงานต้อนรับสาวสวย ซึ่งเท่าที่เห็นพนักงานเกือบทุกคน เป็นผู้หญิงหมดเลย O_o”
จริงๆ ถ้าเราต้องการใช้บริการจัดหาคู่ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มจากการโทรศัพท์เข้ามา หรือติดต่อผ่านเว็บ แล้วก็ค่อยเข้ามาพูดคุยที่บริษัทจริงๆ อีกครั้งหนึ่ง
ภายในบริษัทก็จะมีห้องสำหรับพูดคุย เยอะมาก 4-5 ห้องได้ แต่ละห้องก็ตกแต่งน่ารักๆ กุ๊กกิ๊ก ให้บรรยากาศชวนฝันเล็กน้อย 5555
“ทำไมต้องให้คนที่ต้องการหาคู่เข้ามาพูดคุยที่ออฟฟิศนี้ด้วยครับ ?” ผมเริ่มถามคุณปุ๋ย หนึ่งในแม่สื่อของ MeetNLunch ที่ทำมากว่า 6 ปีแล้ว
“สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเข้ามาพูดคุยแบบเห็นหน้า คือการยืนยันความเป็นตัวตนของลูกค้าค่ะ ว่าเป็นคนยังไง ชอบอะไร บุคลิกแบบไหน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้การได้คุยแบบเจอหน้าจะดีกว่า”
ทีมงานยังเล่าให้ผมฟังอีกว่า ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ จะต้องยืนยันความ “โสด” ของตัวเองด้วย เช่นถ้าแต่งงานแล้ว ต้องมีใบหย่าที่ถูกต้อง เพราะที่นี่เป็นบริการจัดหารักแท้ ไม่ใช่บริการหากิ๊กนะจ๊ะ~*
ขั้นตอนการใช้บริการจัดหาคู่
- ติดต่อ : เริ่มติดต่อเข้ามาที่บริษัท ให้ข้อมูลส่วนตัวแบบละเอียดยิบ ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์
- ทีมงานจะติดต่อกลับผ่านทางโทรศัพท์ เช็คประวัติต่างๆ
- พูดคุย : เชิญเข้ามาที่บริษัท เพื่อเช็คข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สอบถามสเปคสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่ตัวเองชอบ
- นอกจากสเปคแล้วก็จะสอบถามเรื่องของกิจกรรมต่างๆ ที่ชอบทำ เช่นไปเที่ยว ดูหนัง งานอดิเรกต่างๆ บางคนชอบปั่นจักรยาน ก็อาจจะอยากได้คนที่ชอบออกกำลังกายเหมือนๆ กัน
- ประวัติเรื่องความรักก็เป็นเรื่องสำคัญ บางคนแต่งงานแล้วหย่าเพราะอะไร หรือทำไมถึงเลิกกับแฟนคนก่อนๆ (แทบจะไม่มีคนโสดแบบไม่เคยมีแฟนมาก่อนมาใช้บริการ)
- หาคนที่ใช่ : หลังจากนั้นแม่สื่อก็จะไปค้นหาในฐานข้อมูล หรือประชุมกันว่าใครน่าจะเหมาะกับใคร แล้วก็ส่ง Profile ของทั้งสองฝั่งให้
ตัวอย่างคุณบอลกับคุณนุช คู่ที่สำเร็จได้แต่งงาน คนนึงเป็นโปรแกรมเมอร์ อีกคนทำ Web Designer |
- ทางบริษัทจะโทรไปเล่า Profile ให้ทั้งสองฝ่าย ชื่อเล่นอะไร เรียนจบที่ไหน น้ำหนักส่วนสูงเป็นยังไง แต่จะยังไม่ได้เห็นรูปภาพหรือหน้าตา
- ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะออกเดทเลยหรือเปล่า ถ้าทั้งสองฝ่ายโอเค ทางแม่สื่อก็จะนัดเดทให้ พร้อมส่งรูปให้ทั้งฝ่ายได้ดูซึ่งกันและกัน (หากลูกค้าต้องการ)
- นัดเดท : สถานที่เดทส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร โดยทางบริษัทจะส่งเบอร์โทรทั้งคู่ให้ 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเดท
- ติดตามผล : หลังจากนั้นแม่สื่อก็จะมีโทรไปสอบถามผลของการเดทว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ 90% มักจะไม่ได้คบกันเป็นแฟนในเดทแรก แต่จะเริ่มดีขึ้นในเดทครั้งที่ 2-3
- ซึ่งหลังจากนั้นถ้าลูกค้าจะนัดเดทกันเอง คุยกันเองก็ทำได้เลยไม่ต้องผ่านแม่สื่อ แต่หากยังไม่เจอคนที่ใช่ ต้องการหาคนใหม่ แม่สื่อก็จะช่วยดูแลต่อ (กลับไปหัวข้อ หาคนที่ใช่)
แน่นอนการจัดหาคู่ก็ต้องมีการสอบถามถึงความชอบ สเปคต่างๆ ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คำถามคือแล้วผู้ชายกับผู้หญิงจะมีวิธีการเลือกคู่ของตัวเองยังไงบ้าง คำตอบที่ได้ก็น่าสนใจไม่น้อย
ผู้ชาย
- ส่วนใหญ่จะมีดูสาวๆ ที่หน้าตา, รูปร่าง, สีผิว รูปลักษณ์ภายนอก
- สเปคยอดฮิตคือ ขาว, หมวย, เชื้อสายจีน
- ความสูงอาจจะเท่ากันหรือต้องไม่มากกว่าตัวเอง
- นิสัยเอาใจเก่ง, น่ารัก, ร่าเริง
- อายุน้อยกว่าตัวเอง
- ผู้ชายส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลิกกับแฟนเก่าว่า “เข้ากันไม่ได้”, “คบมานาน อีกฝ่ายเปลี่ยนไป”
- ส่วนใหญ่เลือกหนุ่มๆ จากฐานะการงาน ความมั่นคงในชีวิต
- ควรจะต้องมีฐานะที่เท่ากันหรือดีกว่าตัวเอง
- การศึกษาต้องดี
- นิสัยเน้นมีความเป็นผู้นำ เป็นผู้ใหญ่ พูดคุยกันง่าย
- ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลิกกับแฟนเก่าว่า “ผู้ชายมีคนใหม่”, “อีกฝ่ายเจ้าชู้”
- มีลูกค้าที่เป็นเกย์มาบ้าง ส่วนเลสเบี้ยนแทบไม่มีเลย
- ถ้าเป็นเกย์ก็อาจจะถามละเอียดหน่อย
- บางคนจะสนใจเรื่องเซ็กส์ด้วย ก็ต้องถามว่าเป็นรุกหรือรับ (โอ้ววว) เพราะไม่งั้นจะจับคู่กันได้ลำบาก
- ส่วนใหญ่อายุ 30 – 40 ปี
- ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจ้าของกิจการ, ทำธุรกิจส่วนตัว รองลงมาคือพนักงานบริษัท
- การศึกษาป.ตรี 57%, ป.โท 30%
- ลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย มีฝรั่งบ้างแต่น้อย
- อัตราส่วนลูกค้าที่ออกเดทแล้วได้เป็นแฟนกัน คือเกินครึ่งหนึ่ง 50% เลยทีเดียว (แต่ส่วนใหญ่คือเดทที่ 2-3 ขึ้นไปแล้ว)
- การออกเดทส่วนใหญ่จะพูดคุยกันประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- สมัยนี้หลายคนเริ่มเปิดตัวเองมากขึ้น บริการจัดหาคู่เป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้นเยอะ
- ในห้องให้คำปรึกษา จะมีกล่องกระดาษทิชชู่อยู่ด้วย เพราะหลายคนเล่าเรื่องความรักของตัวเองแล้วมักจะร้องไห้ด้วยความเศร้า
- หลายคู่พอได้แต่งงานจริง มักจะไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องราวความรักว่าได้พบกันจากการใช้บริการจัดหาคู่ น่าจะเพราะอายหรือไม่อยากเปิดเผย
- แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีโทรมาพูดคุย ขอบคุณทีมงาน รวมถึงทุกวันนี้หลายคู่ก็เปิดเผยมากขึ้นว่าใช้บริการจัดหาคู่นะ
เรื่องราคาก็ไม่ถือว่าถูก แต่ก็ไม่ได้แพง คือราคาระดับนี้ก็ถือว่าช่วยสกรีนคนที่จะเข้ามาสมัครเล่นๆ หรือพวกแว๊นๆ ไปได้เยอะ การที่เราจะได้พบกับคนที่โสดและเหมาะกับเราทั้งเรื่องของสเปคและฐานะในชีวิตประจำวัน ก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ
ค่าบริการจัดหาคู่ (ราคาปี 2015)
- 1 เดท : 24,999 บาท
- 3 เดท : 44,999 บาท
- 6 เดท : 59,999 บาท
- แพ็คเกจ Super VIP : 1 ปี ราคา 190,000 บาท, 3 ปี ราคา 290,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเดทและการันตีในการหาแฟนให้)
- ชำระเงินล่วงหน้าเต็มจำนวน
- มีการันตี ถ้าหาคนที่ถูกใจไม่ได้เลย ในเวลา 6 เดือน จะคืนเงินให้ด้วย (หักค่าธรรมเนียมแรกเข้า 15,000 บาท)
คำถามสุดท้ายที่ผมถามกับทีมงาน MeetNLunch ว่า อะไรคือความสุขที่สุดของการทำงานแม่สื่อ คำตอบที่ได้ก็น่ารักทีเดียว “การที่เราได้เห็นคนรักกัน เพราะเราได้เห็นคนที่มีความทุกข์กับความโสด เคยเจอเรื่องร้ายๆ ในอดีต เราก็หวังอยากให้เขาได้พบกับคนดีๆ ได้มีความรักกับคนที่ใช่ค่ะ”
อ่านเพิ่มเติม : MeetNLunch