รีวิว ตรวจร่างกายประจำปีที่โรงพยาบาล “สมิติเวช” โซนใหม่ Wellness Center สวยกว่าเดิมมั่กๆ

ช่วงนี้หลายคนน่าจะเริ่มวางแผนการตรวจสุขภาพประจำปีกันบ้างแล้ว สำหรับคนทำงานหาเงิน ก็ต้องมีช่วงหยุดแล้วเช็คดูร่างกายกันบ้างว่ามีอะไรที่เราต้องดูแลเพิ่มกันไหม

แต่แพ็คเกจตรวจสุขภาพก็มีให้เลือกเยอะหลายแบบ พอดีเมื่อ 3 ปีก่อนผมเคยได้ไปตรวจร่างกายกับทางรพ.สมิติเวช

มาปีนี้เลยได้โอกาสไปใช้บริการอีกครั้งนึง ซึ่งทางรพ.เพิ่มมีการเปิดศูนย์ตรวจสุขภาพใหม่ อลังการงานสร้างและสะดวกกว่าเดิม จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกัน

ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี ?

  • เพราะร่างกายเราเปลี่ยนไปทุกปี อายุมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บ หรือความเสี่ยงต่างๆ ก็มากขึ้น
  • บางโรคถ้าตรวจร่างกายทุกปี ก็จะเห็นได้ชัดขึ้น เช่น ไขมันสูง, ค่าสายตา ฯลฯ
  • ผมเคยตรวจเจอความเสี่ยงบางโรค ระหว่างตรวจประจำปี ซึ่งโชคดีมากที่เจอก่อนที่จะใหญ่โต ก็ได้รักษาตั้งแต่เริ่ม
  • แพ็คเกจตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัทบางทีตรวจไม่ครบ ก็ต้องมีการขอตรวจเพิ่มบ้างในบางส่วน
  • เพราะงั้นแนะนำ ตรวจสุขภาพกันเถอะ อย่างน้อยปีละครั้ง อุ่นใจนะจ๊ะ

ประสบการณ์ตรวจสุขภาพประจำปีที่รพ.สมิติเวช

  • ผมเลือกมาตรวจสุขภาพที่รพ.สมิติเวช สาขาสุขุมวิท เพราะเดินทางได้ง่าย ไม่ไกลออฟฟิศเท่าไหร่
  • อดอาหารมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก็แนะนำให้มาตั้งแต่เช้า เพราะจะได้ไม่หิวมากนัก
  • ข้างในโรงพยาบาลสวยหรูไฮโซววว มากกก มี Starbucks ข้างใน รวมถึงร้านต่างๆ อย่าง S&P ด้วย หาของกินง่ายมาก (หิว แต่กินอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอตรวจ)
  • มาถึงศูนย์ Wellness Center ใหม่ อย่างที่บอกว่ารอบก่อนตรวจที่ศูนย์เก่า มาถึงแล้ว โอ้ว สวยกว่าเดิมเยอะเลย กว้างมาก 

  • ติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งแพ็คเกจที่ตรวจ แล้วก็รอเรียกไปตามจุดต่างๆ
  • ผมเลือกแพ็คเกจตรวจประจำสำหรับผู้ชายอายุน้อยกว่า 40 ปี ซึ่งก็มีตรวจสำคัญๆ หลายจุดเหมือนกันที่ไม่ค่อยได้เจอ เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
  • ดูแพ็ตเกจต่างๆ ได้ที่ -> Samitivej Wellness Center

  • ปกติแล้วตรวจประจำปี จะต้องไปตรวจหลายจุด มากกว่า 5-6 Step โชคดีที่ศูนย์ Wellness ตั้งอยู่ตรงกลาง เวลาเดินไปแต่ละจุดไม่ต้องขึ้นๆ ลงๆ เยอะ
  • เริ่มแรกเลยคือตรวจทั่วไป อย่างส่วนสูง น้ำหนัก ความดัน

  • ด่านต่อมา เจอของโหดเลยคือเจาะเลือด กรี๊ดดดดด กลัวๆๆๆๆ

  • โซนเจาะเลือดทำใหม่ ดูเป็นมิตรกว่าเดิม 555 พยาบาลให้กำลังใจดี เจาะทีเดียวผ่านเลย 

  • เวลาผ่านไปแต่จะโซน เราก็จะกลับมาที่ห้องพักที่จุดเดิม ซึ่งมีน้ำดื่ม, น้ำหวาน, ขนม. ชา, กาแฟ ให้บริการ แต่พอดียังไม่ X-Ray เลยยังทานไม่ได้ ฮือๆๆๆ

  • มาถึงด่านตรวจคลื่นหัวใจ อันนี้บอกเลยว่าสนุกมาก เพราะเราต้องนอนบนเตียง และมีสายอะไรก็ไม่รู้มาแปะรอบๆ ตัว เหมือนยอดมนุษย์เลย 
  • ทีแรกนึกว่าจะมีช็อตเล็กๆ แต่พอนอนไป 2-3 นาที พยาบาลก็บอกเสร็จแล้วค่ะ อ่าว ไม่รู้สึกอะไรเลย ผ่านไปไวมาก
  • จากนั้นก็ไปตรวจอวัยวะในช่องท้องส่วนบนด้วยคลื่นเสียง (Ultrasound Upper Abdomen) ซึ่งคุณหมอก็เอาเครื่องมาตรวจ Ultrasound แอบจั๊กจี้มากๆ แต่ไม่กล้าขำ
  • เพิ่งเข้าใจความรู้สึกเวลาตรวจครรภ์ของสาวๆ ว่าเป็นยังไงก็ตอนนี้

  • ด่านท้ายๆ คือไป X-Ray ปอด ซึ่งความอลังการคือมีห้องเปลี่ยนชุดที่ใหญ่โตมากกกก
  • ชอบที่มีล็อคเกอร์เก็บเสื้อผ้าของเราให้เยอะเลย ทีแรกนึกว่าไปฟิตเนส
  • ชุดที่เปลี่ยนก็ห่อมาอย่างดี ทำความสะอาดมาเรียบร้อย

  • ผ่าน X-Ray ปอดไปได้อย่างว่องไว ก็สามารถทานข้าวได้แล้ว เย่ๆ !!

  • ซึ่งในแพ็คเกจตรวจสุขภาพ ทางรพ.ก็จะมีคูปองทานอาหารมาให้ด้วย 100 บาท เลือกได้ว่าจะทานที่ Au Bon Pain หรือ Be Restaurant (ศูนย์อาหารของโรงพยาบาล)

  • ผมเลือกทานที่ศูนย์อาหาร อยากลองว่า 100 บาทจะทานอะไรได้บ้าง
  • ศูนย์อาหารใหญ่โตกว่าที่คิด อาหารดูสด สะอาด มีรสจัดบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นจืดและ Healthy หน่อย

  • อาหารราคาดีเลยนะ ผมได้ข้าวต้ม, กุนเชียง, ไข่พะโล้, BBQ 2 ไม้, น้ำเปล่า รวมแล้วไม่ถึง 200 บาท ได้คูปองมาร้อยนึงก็จ่ายเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ
  • สุดท้ายกลับมาที่ศูนย์ พยาบาลแจ้งว่าผลตรวจมาครบแล้ว ก็ได้นั่งคุยกับคุณหมอเลย ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง

  • คุณหมอให้คำปรึกษา ก็บอกว่าผอมไปหน่อยนะ มีคอเลสเตอรอลสูง ให้พักผ่อนมากๆ
  • ความน่ารักคือในผลการตรวจ จะมีคะแนนเทียบของผมในปีนี้ กับที่เคยตรวจเมื่อปีก่อนๆ มาให้ดูเปรียบเทียบด้วย ทำให้เราได้รู้ว่าจุดไหนดีขึ้นหรือแย่ลงบ้าง

  • ส่วนผลตรวจทั้งหมดก็ถูกส่งมาที่บ้านหลังจากนั้น 7 วัน ได้มาเป็นซองแบบในรูปเบย

:: สรุป ::

ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ได้มาตรวจสุขภาพที่รพ.สมิติเวช ซึ่งก็ได้รับบริการระดับ 5 ดาว สมกับคุณภาพของโรงพยาบาล รวมถึงมีศูนย์ตรวจใหม่ Wellness Center ที่สวยและใหญ่กว่าเดิมมาก 

ส่วนที่ชอบคือการ Flow ของขั้นตอนต่างๆ คือเคยตรวจมาหลายที่ เวลาจะไปแต่ละจุดต้องเดินขึ้นๆ ลงๆ ยื่นเอกสารไปมาบ่อยๆ วุ่นวายมาก แต่ที่นี่ค่อนข้างรวมศูนย์ และก็มีจุดตรงกลางที่ให้เรานั่งพักผ่อน แล้วพยาบาลจะมาดูแลพาไปทุกกจุดให้เอง ไม่ต้องทำอะไรเลย

ด้วยราคาค่าตรวจแบบปกติ 13,000 บาท ก็ต้องบอกว่าสูงทีเดียวตามคุณภาพของโรงพยาบาล แต่ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดเหลือแค่ 8,000 บาท ก็ถือว่าราคาดีมากเลยทีเดียว

ใครที่สนใจ ลองดูราคาแพ็คเกจต่างๆ ได้เลยที่ -> Samitivej Wellness Center

[Advertorial]