รถเข็นเป็นของจำเป็นอย่างหนึ่งในการพาลูกออกไปข้างนอก เพราะจะอุ้มลูกเดินไกลๆ ไม่ไหวแน่นอน แถมยังมีสัมภาระอีกเยอะมากเยอะมาก
Mountain Buggy รถเข็นเด็กนำเข้าจากนิวซีแลนด์ มีหลายรุ่น แต่รุ่นที่ผมใช้คือรุ่น Nano ลักษณะพิเศษของรุ่นนี้คือขนาดเล็ก กระทัดรัด จนถือขึ้นเครื่องบินได้เลย ใช้ได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนประมาณ 6 ขวบ มี 4 สี แดง เหลือง ม่วง และดำ
แชร์ประสบการณ์รถเข็นเด็กพัง เพราะโหลดใต้เครื่อง
ผมเคยมีประสบการณ์อันเลวร้าย เมื่อครั้งที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว ซึ่งเราก็โหลดรถเข็นลงใต้เครื่องตามปกติ ซึ่งพอถึงเวลารับของที่ญี่ปุ่น ปรากฎว่าด้วยอะไรก็ไม่ทราบทำให้ขาของรถแตกและหักลงมา
เจ้าหน้าที่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก นอกจากจะบอกว่าเสียใจด้วย แล้วก็ให้เอกสารใบนึงที่บอกว่า เราสามารถเบิกประกันได้เมื่อกลับถึงเมืองไทย ซึ่งดูเหมือนจะดี แต่แล้วอีกเกือบ 10 วันที่อยู่ญี่ปุ่นจะทำยังไงล่ะคร๊าบบบบ
สุดท้ายผมก็ต้องไปซื้อรถเข็นจำเป็นที่ญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุมากๆ ได้รุ่นที่ไม่คุ้นเคย และต้องมาคอยประกาศขายภายหลัง พอมีรถเข็นเด็ก Mountain Buggy Nano ที่เล็กขนาดพับขึ้นเครื่องเองได้ ก็รีบจัดไปแทบไม่ทันเลย ^___^
รถเข็นเด็ก Mountain Buggy Nano
- ผลิตจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เย็น ทำความสะอาดง่าย และกันน้ำ ไม่ต้องห่วง ถ้าน้องทำน้ำหกใส่ ไม่เปียกเลย
- พับแล้วขนาดเล็กกระทัดรัด พับแล้วเหลือแค่นี้เอง
- มีสายสะพายช่วยให้เวลาถือไม่ต้องแบกรับน้ำหนักมากไป
- มีกระเป๋าใส่ไว้สำหรับเดินทางด้วยนะ
- เบาะที่นั่งลึกให้ลูกได้นั่งสบายได้เต็มก้น
ทดลองใช้
- น้ำหนักเบามาก แค่ 5 กิโลกรัม ไม่หนัก พับใส่กระเป๋าแล้วถือขึ้นเครื่องบินได้เลย
- ถ้าไม่ถือก็ลากได้สบายๆ
- วางในช่องเก็บสัมภาระบนเครื่องบินได้ ยังมีที่เหลืออีกเยอะ หรืออย่างเวลาที่เวลาเราขึ้น Taxi ไม่ต้องเสียเวลาเอาไปเก็บท้ายรถ สามารถวางหน้าคนขับหรือวางตรงที่พักขาได้เลย
- รองรับน้ำหนักได้ถึง 20-25 กิโลกรัม ผมลองเอากระเป๋า 3 ใบ กับของที่ช้อปปิ้งมาระหว่างวัน น้ำหนักเกือบๆ 20 กิโลกรัม แล้วลองเข็น ยังเข็นได้สบายๆ บังคับทิศทางได้ง่ายมากเหมือนเดิม ไม่โคลงเคลง อันนี้เห็นความแตกต่างชัดเจนจากรถเข็นที่เคยใช้มา
- ภายในกว้าง น้องวชิหลับเลยปรับให้เอนนอน แล้วปรับที่วางขาขึ้นมา หลับสบาย หลับยาวไป 2 ชั่วโมงกว่าเลยครับ
- เข็มขัดนิรภัย ล็อค 4 ทิศทาง ไหล่ 2 จุด และช่วงตัว 2 จุด กดล็อคหรือปลดล็อคง่าย จะด้านหน้าหรือด้านหลังล็อคด้วยกันได้หมด ไม่ต้องเสียเวลามาจับให้ถูกด้าน
- ที่วางขาปรับได้ 2 แบบ จะวางขาสบายๆ
หรือถ้าลูกหลับก็ปรับที่วางขาขึ้นมาให้ลูก จะได้นอนได้สบายขึ้น ไม่ต้องทิ้งน้ำหนักขาไปข้างล่าง
- ที่สำคัญคือมี Grab Bar & Food Tray ที่กั้นกันเด็กหล่นและถาดอาหารด้วยนะ ไว้ให้ลูกวางของทานเล่น ระหว่างเรากำลังเดินช็อปปิ้งก็ได้ ซึ่งถ้าเทียบกับรถเข็นในราคาใกล้เคียงกันแทบจะไม่มีแบรนด์ไหนมีเลยจ้า อันนี้ดีนะ
- ล็อค-ปลดล้อรถแค่ปลายเท้า แค่ปุ่มสีแดงเบาๆ ล้อก็ล็อคแน่นไม่สามารถขยับได้เลย ถ้าจะปลดล็อคก็แค่เหยียบปุ่มสีแดง
- เข็นง่ายมาก แค่แตะเบาๆ ก็ขยับแล้ว ไม่ต้องออกแรงเยอะ แถมยังขับเคลื่อน 4 ล้อ บังคับทิศทางได้ง่ายสุดๆ เข็นข้ามสิ่งกีดขวางเล็กๆ อย่างสายไฟนี่ไม่มีสะดุดเลย ผมลองเข็นน้องวชิที่ชายหาด ผ่านทราย รถก็ยังเข็นได้
ราคา
ราคา 17900 บาท ไม่ต่างจากราคารถเข็นทั่วไป เทียบกับคุณสมบัติเท่านี้ถือว่าไม่แพงเลย
ข้อดี
- ทำจากวัสดุดีมาก แข็งแรง
- น้ำหนักเบา เล็ก กระทัดรัด
- เบาะลึก นั่งสบาย
- เข็นง่าย
- รับน้ำหนักได้เยอะ เวลาเข็นไม่โคลงเคลง
- ใช้ได้ยาวนานจนลูกโต บางคนอาจใช้ได้ถึง 6-7 ขวบ ไม่ต้องเสียเงินซื้อคันใหม่บ่อยๆ
ข้อเสีย
ที่ประทับใจสุดไม่ใช่เรื่องความเล็กและพกพาสะดวก แต่เป็นเรื่องของความแน่นของล้อ ซึ่งอันนี้บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอย่างไร ต้องลองเข็นเองดูฮะ ตัวเครื่องเขาแน่นจริง ไม่ง๊องแง๊งเหมือนรถเข็นขนาดเล็กยี่ห้ออื่นๆ
สรุปคือชอบมากๆ ตอนนี้ใช้เป็นรถเข็นหลักสำหรับน้องวชิไปแล้ว เดินทางสะดวกดี ราคาไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป ใครสนใจแนะนำลองติดต่อได้ที่ -> Baby Hills Thailand เลยจ้า
☎️ : 02-056-7863
📱 : 084-364-4445
📩 : https://www.facebook.com/messages/t/Daiichithailand/
💻:http://www.babyhillsthailand.com
🔹IG : @babyhillsthailand