โชคดีที่เมืองไทยเราในทุกยุค จะมีโชว์ระดับที่เราสามารถอวดนักท่องเที่ยวได้อยู่เสมอๆ ตั้งแต่ยุคก่อนอย่าง อัลคาซ่าร์, Siam Niramit, อลังการ ซึ่งแต่ละโชว์ก็จะมีความโดดเด่นต่างกันไป
แต่ล่าสุดเราก็ได้มีโชว์ที่บอกได้เต็มปากเต็มคำเสียทีว่าเป็นโชว์ระดับโลกจริงๆ นั่นคือ KAAN Show ที่เมืองพัทยา
ซึ่งความไม่ธรรมดาของโชว์นี้คือการร่วมมือระหว่างมือทองในวงการบันเทิงไทย ทั้งเทพด้านละครเวทีไทยอย่าง Scenario รวมพลังกับเทพด้านภาพยนตร์อย่าง GDH แถมด้วยทีมงานอีกเพียบ ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยเลย
รู้จักกับ KAAN Show ทำไมใครๆ ก็บอกว่านี่คือระดับโลก
- KAAN Show (คานโชว์) เป็นการแสดงสดแบบ Live Performance ที่มีส่วนผสมของการแสดง, โปรดักชั่นอลังการ, แสงสีเสียง และภาพยนตร์
- เงินลงทุนโครงการนี้สูงถึง 1,000 ล้านบาท
- ในการแสดงใช้ทีมงานรวมมากกว่า 600 คน
- ดูทีมงานด้านการแสดงโดย GDH : นำโดย สิน – ยงยุทธ ทองกองทุน และ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา จาก บริษัทสนุกดีทวีสุข
- งานควบคุมนักแสดงบนเวที เป็นความรับผิดชอบของ บริษัท Scenario ผู้ผลิตละครเวทีชั้นนำของเมืองไทยของ บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ
- ไฮไลท์อีกอย่างคือตัว “โรงละครลอยฟ้า” ที่สามารถจุคนดูได้ถึง 1,400 ที่นั่ง ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดัง A49 ใครที่ไปชมก็จะต้องถ่ายภาพท่ายกโรงละครลอยได้ #ฮา
- รอบการแสดง* เดือนมิถุนายน มีทั้งหมดอังคาร-พฤหัสบดี วันละ 1 รอบเวลา 21.00 น.ศุกร์ -อาทิตย์ มีวันละ 2 รอบ เวลา 17.00น. และ 21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
- ค่าบัตรเริ่มที่ 2,500 – 4,000 บาท (ช่วงนี้มีโปรดูโชว์รอบweekdayลด 40%, weekend ลด 30% จากราคาเต็ม)
- ระยะเวลาการแสดง : 1 ชั่วโมง 30 นาที
- โรงละคร SINGHA D’LUCK Cinematic Theatre ตั้งอยู่ที่ ถ.เทพประสิทธิ์ ในเมืองพัทยา
- จองบัตร และรายละเอียดเพิ่มเติม -> KAAN Show
- Update รอบการแสดงล่าสุดได้ที่ -> Facebook KAANShow
รีวิว KAAN Show พัทยา มีอะไรดีกว่าที่คุณคิด
โรงละครอยู่ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมากนัก ตั้งอยู่ถนนเทพประสิทธิ์ ขับผ่านก็จะต้องมองเห็นแน่นอนเพราะโรงละครใหญ่มากกกกก
ที่จอดรถกว้างใหญ่ดี มีรถรับส่งจากที่จอดรถมาโรงละคร หรือจริงๆ จะเดินมาก็ได้ แต่นั่งรถก็ดูสะดวกดี
ด้านหน้าโรงละครมีร้าน Greyhound Cafe ก็แวะไปชิคๆ ชิวๆ กันได้
ห้องจำหน่ายบัตร ทำเป็นเหมือนธีมห้องสมุดขนาดใหญ่ ตามเนื้อเรื่องที่พระเอก (คาน) ไปพบหนังสือแล้วเข้าไปสู่โลกต่างๆ ของวรรณคดีไทย
ห้องขายของที่ระลึก มีให้เลือกเยอะมากเลย ทั้งตุ๊กตา เสื้อ กระเป๋า สมุด ฯลฯ ราคากำลังดี ไม่ถูกไม่แพง แล้วก็มีของจาก GDH มาขายด้วยนะ พวกเสื้อจากหนังหรือละคร
บัตรราคาเริ่มที่ 2,500 บาท แต่ไปช่วงเปิดตัวก็ลดกันกระจาย 30-40% โดยราคา 1,500 ก็ไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงอะไร ถ้าเทียบกับโชว์ที่อื่นก็หลักพันกันหมด
สิ่งแรกที่เห็นคือโรงละคร SINGHA D’LUCK Cinematic Theatre ซึ่งทุกคนก็จะมองแบบงงๆ ว่าโรงละครมันลอยบนอากาศได้จริงด้วย O_o”
แอบไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นเทคนิคการใช้กระจกหลอกตาอีกทีนึง แต่ก็กลายเป็นกิมมิคที่ทุกคนต้องไปถ่ายภาพท่าแบกโรงละคร 5555
สำหรับการเลือกโซน บัตรที่แพงสุดจะอยู่ตรงกลางด้านบน ส่วนตัวผมแนะนำว่าควรจะดูจากตรงกลางโรงละคร ทั้งด้านบนหรือด้านล่างก็ได้ เพราะจะได้มุมที่ดีที่สุด
ผมเลือกชมตรงกลางแถวล่าง ก็ยังดูสนุกไม่แพ้ด้านบนครับ
ทางเข้าข้างในโรงละคร มีส่วนของ Snack Bar ซื้อน้ำขนมเข้าไปทานได้ เพราะโชว์ค่อนข้างนานคือ 1 ชั่วโมง 30 นาที เหมือนดูหนังเรื่องนึงเลย ไม่มีหยุดพัก
เข้าไปถึงก็จะพบกับโรงละคร ซึ่งต่างจากโรงละครหรือโชว์ทั่วไป ตรงที่เวทีจะอยู่ต่ำกว่าที่นั่ง แถมพื้นที่ของเวทีลึกและกว้างมากๆ
ซึ่งทีแรกก็แปลกใจเล็กน้อย แต่พอได้ดูโชว์ก็จะรู้ว่าทำไมเวทีถึงต้องต่ำและกว้าง เพราะการแสดงจะมีฉากที่ต้องบินขึ้นอากาศ วิ่งไปซ้ายขวา และมีรถหรือเรือขนาดใหญ่มากๆ เข้าออกฉากตลอดเวลา
เก้าอี้นั่ง ขนาดประมาณโรงหนัง กว้างกว่าเก้าอี้โรงละครเวทีตามปกติเล็กน้อย มีที่วางแก้วน้ำให้ ความสูงของเก้าอี้กำลังพอดี ด้านหน้าผมเป็นผู้ชายสูง ก็ดูได้โอเคดี ไม่บังกัน
เริ่มการแสดง KAAN Show !!
- เรื่องราวของโชว์เริ่มจาก “คาน” ถูกดูดหายไปกับ “กบิลปักษา” ตุ๊กตาลิงที่อยู่ในห้องสมุด ซึ่งได้พบกับโลกการผจญภัยมากมาย
- การแสดงจะไม่มีการใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นทุกคนทุกชาติจะดูได้เข้าใจ ผ่านภาษาการแสดง
- ผีเสื้อพิโรธ (THE WRATH OF THE SEA GIANTESS) : การแสดงในชุดแรก เป็นฉากเรือ และตามเนื้อเรื่องของพระอภัยมนี ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีนางผีเสื้อสมุทรด้วย
- เนื่องจากเป็นฉากแรก เลยจะเป็นการโชว์ให้เห็นว่าฟีเจอร์ต่างๆ ของโชว์มีอะไรบ้าง ตั้งแต่การใช้ภาพแบบในหนัง, การมีเรือแล่นออกมา, การใช้เพลงและเสียงประกอบ
- แต่ที่น่าทึ่งสุด คือฉากที่มีการขี่ม้านิลมังกร แล้วลอยขึ้นมาอยู่ “บนหัว” ของผู้ชม คือละครปกติก็คงบินบนฉาก แต่อันนี้บินมาบนลอยบนหัวผู้ชมเลยจริงๆ นะ แทบจะเอื้อมมือขึ้นไปจับได้เลย อันนี้ตื่นตาตื่นใจมาก ยอมรับ
- ปราโมทย์หิมพานต์ (THE COLORS OF HIMMAVANTA) : เป็นฉากในป่าหิมพานต์ ความสวยงามกับการเล่นแสงยามค่ำคืน พร้อมการแสดงของกินรีที่ลอยขึ้นไปบนอากาศได้พร้อมๆ กัน
- อสุนีมารโรมรัน (THE CHASE OF LIGHTNING) : เป็นฉากที่โชว์เทคนิคล้วนๆ เหมือนนั่งดูหนัง Avatar แต่เป็นคนแสดงสดๆ ตรงหน้าเลย
- เดิมพันรจนา (THE WAGER FOR THE IVORY KINGDOM) : ฉากที่เล่นกับไฟ และแสง รวมถึงเป็นฉากที่มีนักแสดงออกมาเยอะมากๆๆๆๆ แถมมีการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ต้องบอกเลยว่า “เล่นใหญ่” (ต้องไปดูเองว่าใหญ่แค่ไหน)
- ปราบพญาชาละวัน (THE UNDERWATER ABYSS) : ความสนุกของการดูไกรทองกับพญาชาละวัน เหมือนดูเกมต่อสู้บน PlayStation
- ทศกัณฐ์อหังการ (THE CATACLYSM) : ฉากสุดท้าย ซึ่งก็เป็นไฮไลท์เด็ด เพราะเป็นการนำเรื่องราวของรามเกียรติมาดูในมุมใหม่ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นรามเกียรติ์เวอร์ชัน Starwars !!
- คือจะได้เห็นหนุมานที่เป็นหุ่นยนต์ วิ่งสู้กันรวมกับเจได และมีทศกัณฐ์ที่เท่โคตรๆ ราวกับ Dart Vader (พูดเอาฮา แต่ตอนดูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)
- จบการแสดง นักแสดงออกมาขอบคุณ จนได้เห็นว่า เห้ย ใช้คนแสดงเยอะขนาดนี้เลยเหรอ เป็นร้อยๆ เลย นี่ยังไม่รวมทีมงานสร้างอื่นๆ หลังฉากอีกเพียบ
- บรรยากาศช่วงท้ายดีมากๆ ทุกคนลุกขึ้นปรบมือ กรี๊ดกร๊าด แต่สิ่งที่ผมว่าดีที่สุดเลยคือได้เห็นสีหน้าของนักแสดง ที่ดูเขาจะภูมิใจกับการแสดงโชว์ชุดนี้เอามากๆ
- ออกจากโรงละคร ข้างนอกนักแสดงจะออกมาถ่ายรูปด้วย ซึ่งก็มีการจัดต่อคิวอย่างเป็นระเบียบ แต่คนเยอะมาก และทุกคนก็อยากถ่ายรูปกับนักแสดงเอามากๆ
โดยสรุปแล้ว บอกตามตรงว่าพอได้ยินว่ามีโชว์การแสดงที่มีความเป็นไทยใส่เข้าไปด้วย ตอนแรกผมก็รู้สึกว่าไม่น่าจะมีอะไรใหม่ เพราะเราเองก็เห็นโชว์ลักษณะนี้มาตั้งแต่เด็กจนชินตา
แต่บอกเลยว่า แค่เปิดมาฉากแรก คุณก็ลืมภาพการแสดงแบบไท๊ยไทยที่เคยมีในหัวออกไปได้เลย เพราะ KAAN Show ไปไกลกว่านั้นมาก คุณจะได้ดูความโลดโผนเหมือนหนัง Avatar, ความตื่นตาเหมือนดูโชว์ที่ Las Vegas และไอเดียแปลกใหม่ จากวรรณคดีไทย เหมือนดู Starwars แบบไทยๆ
จะมีติก็คือเรื่องของราคาบัตร ที่อาจจะดูว่าสูงอยู่ แต่ช่วงเปิดตัวนี้ก็มีโปรโมชั่นลดหนักๆ 30-40% ซึ่งก็อยากให้ได้ลองไปดูกัน เพราะโชว์ดีๆ แบบนี้ และมีโปรโมชั่นช่วงเปิด ก็หาราคานี้อีกไม่ได้ง่ายๆ ครับ
คะแนน : 9.5/10
จองบัตร และรายละเอียดเพิ่มเติม -> KAAN Show