ข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นการประกาศสนับสนุนและเข้าสู่โลก Startup จาก “แสนสิริ” ซึ่งไม่ใช่แค่เข้ามามีส่วนร่วม แต่ถึงกับเปิดตัวกองทุน Siri Venture พร้อมทุนกว่า 100 ล้านบาท !!
หลายคนอาจจะนึกว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์กับการเข้ามามีส่วนร่วมในวงการ Startup ไม่ออก แต่ถ้ามองดูบริษัทอย่าง Airbnb ที่เข้ามาบุกตลาดที่พักจนมีมูลค่ากิจการสูงกว่า 30,000 ล้านดอลล่าห์ไปแล้ว ซึ่งใหญ่กว่าเครือโรงแรม Marriot เสียอีก
การที่แสนสิริมาจับธุรกิจกลุ่มนี้มากขึ้น ถือเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว เลยอยากลองสรุป 4 ประเด็นที่น่าสนใจจากงานแถลงข่าวที่ผ่านมา
1. ไม่ใช่แค่สนับสนุน แต่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการ Startup
เราได้เห็นโครงการประกวด, อีเวนต์, โครงการสนับสนุน Startup ออกมามากมายในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่หลายโครงการก็เป็นเพียงการเข้ามาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้บริษัทดูทันสมัยขึ้นเท่านั้น
โครงการ Siri Venture จากที่ได้ฟังข้อมูลคือไม่ใช่แค่สนับสนุนวงการ Startup แต่คือการเข้าไปลงทุน และมีส่วนร่วมกับโปรเจ็คต่างๆ ด้วย (เกิดจากการร่วมมือของแสนสิริกับ SCB) รวมถึงทำการพาร์ทเนอร์กับหลายบริษัททั้งในไทยและต่างประเทศในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ
2. โอกาสทางธุรกิจที่มากกว่าการสร้างที่อยู่อาศัย
เราได้เห็นกระแสบ้านไฮเทคมานานแล้วในต่างประเทศ แต่เริ่มจะบูทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งการเปิดตัวระบบ Homekit ของ Apple, Echo ของ Amazon หรือ Google Home ของฝั่งกูเกิล
บ่านที่เราอยู่ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีหลังจากนี้ ซึ่งจากในงานเปิดตัวคุณชาคริตก็พูดไว้น่าสนใจว่า
“ถ้ามองว่าบ้าน, คอนโด และที่อยู่อาศัยคือสถานที่มีชีวิต ซึ่งก็คือมีคนอยู่ในนั้น เชื่อว่าหลายชีวิตก็เริ่มเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำไมเราไม่เข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขามากขึ้น นั่นคือโอกาสมหาศาลที่น่าสนใจ”
การประกาศตั้งเป้าสร้างเครือข่ายกับ ผู้พัฒนานวัตกรรมใหม่ด้าน Property Technology อย่างน้อย 300 รายภายในปี 2020 ก็ดูน่าจะชัดเจนดีทีเดียว
3. Proptech ศัพท์ใหม่ที่กำลังจะมา
ปีที่ผ่านมาเราจะได้ยินคำว่า Fintech กันบ่อย จากการเปิดตัวโครงการต่างๆ ของฝั่งธนาคาร ส่วนทางค่ายมือถือก็เริ่มโครงการเกี่ยวกับ Startup ไปก่อนหน้านี้สักพักแล้ว
มาในปีนี้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในไทยเริ่มเข้ามาสนับสนุนและมีส่วนร่วมกับ Startup ด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นการตามเทรนด์ใหม่ๆ แต่เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม Property กับเรื่องไฮเทคมากมาย
เช่น การเพิ่มที่ชาร์จระบบไร้สายเข้ามาในเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งเราน่าจะได้เห็นการต่อยอดไปใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อีกมากเลยทีเดียว
4. ตัวจริงจากวงการ Startup ไทยไปร่วมงาน
เราได้เห็นหลายบริษัทที่อาจจะมีเงินแล้วก็ทุ่มลงไปทำอะไรที่ตัวเองไม่ถนัดแล้วสุดท้ายก็ไปไม่รอด เหตุผลคือขาดคนที่เข้าใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่จริง ซึ่งกรณีของ Siri Venture นี้น่าสนใจที่หัวเรือใหญ่โครงการ คือพี่ไวท์ ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล นี่เอง
เผื่อใครไม่รู้จัก พี่ไวท์เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท FireOneOne พัฒนาโซลูชันสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น SCG, ปตท. รวมถึง แสนสิริด้วย เป็นคณะกรรมการโครงการ Startup มากมายในไทย
ถ้าจะบอกว่า “ตัวจริง” ในวงการ Startup ไทยมีอยู่ไม่กี่คน ก็ต้องบอกว่าพี่ไวท์คือหนึ่งในนั้นแน่นอน
:: สรุป ::
โดยสรุปแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียวว่าเราจะได้เห็นอะไรสนุกๆ จากโปรเจ็ค Siri Venture หลังจากนี้ต่อไป โลกออนไลน์ 4.0 นี้หลายธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันก็อาจจะถูกกลืนและจางหายไป แต่ถ้าใครจับทิศทางได้ทัน กล้าเริ่มกล้าลุย
ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับเมืองไทยหลังจากนี้ก็ได้