ด้วยความที่ปกติเป็นคนไม่ดูละคร แต่เมื่อปีที่แล้วตอนที่ภรรยาท้อง ด้วยความเครียดบวกกับมีเวลาว่าง เราก็เลยตัดสินใจหาซีรีส์เกาหลีเพื่อมาทำให้ว่าที่คุณแม่อารมณ์ดี ซึ่งจากการสอบถามทาง Twitter ว่ามีเรื่องไหนแนะนำบ้าง คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่คือ “You Who Came From The Star”
1 ปีผ่านไป ก็ไม่เคยได้ดูละครเรื่องไหนอีกเลย มาถึงช่วงที่น้องวชิ ลูกน้อยเริ่มโตขึ้นมา 10 เดือนแล้ว หลายอย่างเริ่มเข้าที่ ก็ได้เวลาหาซีรีส์มาดูซักเรื่องเพื่อให้ชีวิตมีสีสันในช่วงค่ำมากขึ้น
ซึ่งรอบนี้ก็ลองขอความเห็นจากใน Twitter เช่นเดิม และพบว่าเกือบ 80% ทุกคนแนะนำให้ดู “Descendants Of The Sun” พอดีกับจังหวะที่ละครเรื่องนี้กำลังเป็นข่าวดังหลังจากนายกท่านแนะนำให้ดู
ว่าแล้วก็ขอลองหยิบมาดูซักตอนนี้ กะว่าถ้าไม่สนุกก็คงบอกลา …. แต่ปรากฏว่า “ติดโคตรๆ” กดดูตอนต่อไปแทบไม่ทัน อร๊ายยยยย >o<
อ่านเพิ่ม : ประสบการณ์ติดซีรีส์เกาหลีครั้งแรกในชีวิต กับ “You Who Came From The Star”
Descendants Of The Sun
- กระแสความฮิตของ Descendants Of The Sun ก็คงไม่ต้องพูดถึงกันมาก เพราะได้ยินจากทุกสื่อ เรตติ้งแรงทะลุ 30% ไปแล้ว ถือว่าแรงกว่า You Who Came From The Star ซะอีก
- โดยเฉพาะในเกาหลี, จีน, ญี่ปุ่น ดังเอามากๆ จนรัฐบาลจีนออกมาเตือน
- ได้รับคำชมจากผู้นำประเทศ ไม่ใช่แค่ไทย เพราะช่วยส่งเสริมให้คนรักชาติ
- ที่เขียนอยู่ตอนนี้ละครเพิ่งมาถึงตอนที่ 10 ยังไม่จบ
- มีฉายทางช่อง KBS ทาง True Visions แบบ HD ด้วยนะ (แต่ซับ Eng) ถ้าอยากดูซับไทยก็ต้องหาเว็บอื่นๆ ดูกันเอง
- ผมดูซีรีส์เรื่องนี้ด้วยอาการจับผิดล้วนๆ เลยครับ คือในใจตั้งคำถามตลอดเวลา ว่าทำไมถึงฮิต ? ทำไมถึงดัง ? มีอะไรที่แตกต่างจากละครเรื่องอื่นๆ
- หลังจากกดดูแค่ EP. 1 โอ้โห เอาอยู่มากๆ ต้องปรบมือให้เลยว่าของเค้าดีจริง
- คือตอนดูเราก็พยายามจับแบบรู้ทันให้ได้ไงว่า เฮ้ย เดี๋ยวต้องมีนังมารหัวใจ, เดี๋ยวต้องมีบทพ่อแง่แม่งอน, ต้องมีตัวน่ารำคาญแบบแม่นางเอกมาโวยวาย, ต้องมีบทซุปเปอร์ฮีโร่ให้พระเอก
- ปรากฏว่าที่เดาไว้ แทบจะไม่เห็นในซีรีส์เรื่องนี้เลย
- แค่ตอนแรก พระเอกนางเอกก็เริ่มรักกันแล้วอ่ะ ไม่มีมารหัวใจ หรือศึกแย่งสะมีกันเลย คือเค้ารักกันแต่มันมีอุปสรรคเรื่องอื่นมาขวางมากกว่า
- ปกติ EP.1 คือการแนะนำตัวละครและปูเรื่อง แต่ DTS (Descendants Of The Sun) นอกจากจะปูเรื่องทั้งหมดแล้ว ยังใส่เรื่องอารมณ์ให้อินได้ตั้งแต่ตอนแรก
- ถึงกับพอจบปุ๊บ คุณเมียที่รักเอาเท้าเขี่ย บอก “ไปเปิดตอนต่อไปเดี่ยวนี้ !!” ผมนิแทบจะยกมือทำท่า “วันทยาหัตถ์” ไม่ทันเบย
- Production ก็ต้องบอกว่าดีมาก โดยเฉพาะฉากที่ต้องลงทุน ก็ลงกันจริงจัง เช่น ฉากถ่ายทำต่างประเทศ หรือฉากเหมืองถล่ม ทำดีเหมือนดูหนังเรื่องนึง
- บทหนังช่วงกลางๆ เริ่มเอื่อยๆ มีเกือบหลับเหมือนกันตอนดู EP. 4-5 คือเรื่อยๆ มากไม่ค่อยมีอะไร
- ตอนที่ชอบที่สุดเลยคือ EP. 7 ช่วงที่ต้องช่วยคนที่ติดอยู่ในเหมืองถล่ม เป็นตอนที่เครียดมาก ดูแล้วเข้าใจในความเป็นหมอ ความเป็นทหาร ความเป็นคน
- ทุกตัวละครมีการตัดสินใจที่เป็นคนจริงๆ ดีนะ ไม่ได้เฟคมากหรือทำอะไรไม่สมเหตุสมผล
- “ซงจุงกิ” ในบท “กัปตันยูชีจิน” หล่อมาก โคตรเท่เลยแหล่ะ ปกติผมไม่ชอบดูตัวละครผู้ชาย สนใจแต่นางเอกมากกว่า แต่เรื่องนี้ยอมรับว่าเขาเล่นได้ดี และเป็นตัวละครที่โคตรเท่จริงๆ
- “ซองเฮเคียว” ในบทคุณหมอสาว “คังโมยอน” ก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกก น้องซองเล่นเรื่องไหนก็น่ารักอยู่แล้ว เรื่องนี้ใส่ชุดคุณหมอยิ่งน่าร๊ากกกกกกกกกกกก
- คู่คิวจีวอนกับจินกู ก็ดูเพลินๆ ดี เป็นพระรอง ที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ เสียดายที่บทน้อยไปหน่อย
- ผู้หญิงใส่ชุดทหารก็ดูน่ารักไปอีกแบบเน๊อะ
- สิ่งที่ชอบสุดใน DTS เลยคือบทของหนัง และความสมจริงครับ ผมว่าหนังมันดูเรียล ดูจริง จนเราสัมผัสได้ว่าทำไมตัวละครถึงต้องตัดสินใจกันแบบนั้นๆ
- ในเรื่องนี้ตัวละครที่ชอบสุดคือหมอคังโมยอน ไม่ใช่แค่เพราะน้องซองน่าร๊ากกกกกกก แต่คือเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนในทุกการตัดสินใจเลย แล้วเธอก็เล่นดีเอามากๆ
- มุมกล้องในแต่ละฉากก็สวยมาก ทั้งที่ถ่ายในต่างประเทศ หรือฉากสะเทือนอารมณ์สำคัญๆ
- ส่วนไม่ชอบก็มี คือมันก็ดูเครียดไปหน่อยเหมือนกันนะ ฉากที่พยายามจะให้ตลกมันไม่ค่อยตลก มีแค่ความเปิ่นของนางเอกที่ทำให้ปล่อยก๊ากได้บ้าง
- คือถ้าใครอยากดูคลายเครียดก็อาจจะไม่ช่วยมาก แต่ถามว่าดูแล้วติดไหม บอกเลยโคตรติด
อ่านเพิ่ม