ช่วงนี้ตลาดอินเทอร์เน็ตตามบ้านเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากหลายค่ายเริ่มมีการอัดโปรโมชั่นใหม่ๆ รวมถึงขยายสายไปครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
ส่วนตัวเคยใช้อินเทอร์เน็ตบ้านมาครบทั้ง 3 เจ้าเลย เคยใช้มาตั้งแต่ 3BB ต่อมาก็ได้มาใช้ของ TOT ก่อนสุดท้ายจะเลือกเปลี่ยนมาใช้ของ True Online นานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งก็มีเหตุผลหลายๆ อย่างที่ยังคงคิดว่าเน็ตทรูยังดีสุดอยู่
[บทความนี้เป็น Advertorial แต่แชร์จากประสบการ์ใช้งานจริง]
1. ความเร็วของเครือข่าย
เราใช้เน็ตทำอะไรบ้าง ? แน่นอนส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเล่นเว็บ อ่านเมล์ เม๊ากับเพื่อนๆ
แต่ช่วงหลังเน็ตบ้านเริ่มใช้งานที่เป็นวิดีโอมากขึ้นเยอะ โดยเฉพาะกับ YouTube, Google, Facebook ซึ่งอาศัยเน็ตไปต่างประเทศทั้งนั้น ถ้าท่อเน็ตไม่ใหญ่พอ คนแย่งกันดูด ก็กระตุก กระตุก กระตุก แน่นอน
จากโครงสร้างเครือข่ายออนไลน์ ทรูจะมี Bandwidth ในประเทศ 225 Gbps และต่างประเทศ 241 Gbps แต่ที่สำคัญสุดคงเป็นท่อที่เชื่อมต่อตรงไปเซิร์ฟเวอร์ของ Google ที่สิงค์โปร์ ซึ่งทำให้โหลด Google + YouTube ได้ไวมาก
จากประสบการณ์คือใช้เน็ตบ้านทรูดู YouTube ที่บ้านตลอดทั้งบน iPhone, iPad และ Apple TV ก็ลื่นดีไม่ติดอะไร ดูถ่ายทอดสดฮอร์โมนหรืออีเวนต์ต่างประเทศก็ตามเทรนด์ได้สบายๆ อาจจะเคยเห็นที่แชร์ใน Twitter, FB บ่อยๆ
2. Market Share สูงสุด
เน็ตบ้านในไทย ไม่เหมือนกับเน็ตบนมือถือ เพราะแต่ละค่ายผลัดกันนำผลัดกันตาม จากตัวเลขล่าสุดของทางกสทช. ส่วนแบ่งการตลาดอินเทอร์เน็ตตามบ้านในไทยคือ
- True Online : 38%
- TOT : 31%
- 3BB : 28%
- อื่นๆ : 3%
การมีคนใช้เยอะสุดอย่างน้อยก็อุ่นใจว่าเค้าจะไม่หนีเราไปไหน มีปัญหาอะไรก็หาคนช่วยเหลือได้ไม่ยาก แต่ถ้ากลัวว่าคนใช้เยอะแล้วจะแย่งเน็ตกัน อันนี้ก็ต้องลองทดสอบความเร็วดูว่าเสถียรมากพอแค่ไหนฮะ
3. จัดงาน จัดอีเวนต์ เลือกใช้เน็ตทรูตลอด
ในแต่ละปีจะมีงานใหญ่ที่ต้องจัดอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสด Keynote Apple มาที่เมืองไทย หรืองาน Web Presso ของสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
ซึ่งความเร็วในการใช้เน็ตไม่ใช่แค่สำคัญ แต่โคตรจะสำคัญเลยแหล่ะ ถ้างานพวกนี้เน็ตล่ม ทุกอย่างคือจบหมดเลย งานเลิกกลับบ้านกัน
ทุกครั้งที่จัดงาน ผมก็จะเลือกใช้เน็ตทรูมาโดยตลอด ซึ่งทุกอีเวนต์ที่จัดก็ไม่เคยเจอปัญหาเน็ตล่ม จัดถ่ายทอดสดไม่ได้ เมื่อถามจาก Feedback ทุกคนที่มางานก็แฮปปี้ดี งานราบลื่นคนจัดเองก็โล่งใจตามไปด้วย
แต่ข้อนี้ต้องออกตัวว่าไม่เคยลองใช้เน็ตค่ายอื่นในการจัดงาน เลยไม่สามารถเปรียบเทียบได้ แต่ที่ผ่านมาทุกครั้งก็ยังไม่พบปัญหาอะไร
4. ราคา, โปรโมชั่น
ถ้าเทียบกันที่แพ็คราคาถูกสุด ทั้ง 3 เจ้าจะพอๆ กันที่ 500 – 600 บาท ซึ่งเมื่อดูแล้วที่ราคา 590 บาทของ TOT และ 3BB จะให้ความเร็วที่ 10 Mbps ส่วนของทรูจะให้ที่ 15 Mbps
ข้อเสียของเรื่องราคากับความเร็ว คือทั้ง 3 เจ้าจะไม่ค่อยยอมอัพความเร็ว จนกว่าจะมีรายไหนประกาศเพิ่มความเร็วปุ๊บ รายอื่นก็รีบประกาศอัพความเร็วตามทันที คงเหมือนสนามรบอะไรประมาณนั้น 555
เรื่องราคาสำหรับใครที่ใช้เบอร์มือถือของค่ายที่เราใช้อยู่ ก็มักจะได้โปรที่ดีสำหรับการสมัครอินเทอร์เน็ตด้วย
5. บริการเสริม, ของแถม
สำหรับการติดเน็ตบ้านในยุคนี้ แน่นอนว่า Wifi Router, ค่าติดตั้ง ย่อมฟรีกันหมดทุกค่ายอยู่แล้ว รวมถึงเรื่องค่าประกันอุปกรณ์ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่
เมื่อดูเรื่องบริการเสริม สิ่งแรกที่น่าสนใจคือ
บริการ Free Wifi
ตามห้างร้าน หรือสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเวลาเราไปก็ไม่ต้องใช้เน็ตมือถือ ต่อ Wifi ใช้งานได้เลย
3BB มี Wifi ประมาณ 70,000 จุด ในขณะที่ TOT และ True Online มีบริการ Wifi เกิน 100,000 จุดทั้งคู่ ส่วนเรื่องความเร็วก็ต้องทดลองใช้กันดู
ทีวี
ทรูมักจะมีแคมเปญแถมกับ True Visions ในขณะที่ 3BB และ TOT ก็จะมีบริการ IPTV แถมมาในแพ็คเกจ ถ้าวัดจำนวนช่องและคุณภาพแล้ว True Visions ที่มีแอพอย่าง True Anywhere น่าจะมีภาษีที่ดีกว่า
:: สรุป ::
ข้อเสียของการใช้เน็ตบ้านทรู
เมื่อพูดถึงข้อดีของ True Online แล้ว ก็ต้องพูดถึงข้อเสียด้วยเช่นกัน จากประสบการณ์ใช้จริงมา 5 ปี ก็เคยพบปัญหาอยู่บ้าง อย่างแรกเลยคือโปรโมชั่น ที่ทรูมักออกมาหลายตัวมาก และมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก อ่านดอกจันทร์จนเริ่มมึณ รวมถึงสมัยก่อนสายก็มาไม่ถึงบ้าน ก็ต้องโทรไปแจ้ง Call Center และรอประมาณนึง ถึงจะได้ใช้จริง
อีกเรื่องคือเนื่องจากส่วนตัวเป็นคนทำเว็บและทำงานออนไลน์เป็นหลัก บางครั้งเน็ตทรูก็เก็บแคชข้อมูลไว้เยอะพอสมควร ข้อดีคือโหลดได้ไว แต่บางครั้งเมื่อมีการแก้ไขเว็บต่างๆ ก็ต้องคอยกด Refresh บ้างเพื่อให้มัน reload ข้อมูลล่าสุด
ข้อดีของการใช้เน็ตบ้านทรู
เมื่อพิจารณาจากทุกรายที่มีในตลาดตอนนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าโปรโมชั่น การโปรโมท แคมเปญต่างๆ รวมถึงของแถม True Online ยังดีที่สุดอยู่ รวมถึงบริการอย่าง True Wifi ถ้าได้ลองใช้ก็จะรู้ว่าเร็วจริง และค่อนข้างเสถียร
ยิ่งถ้าคุณใช้โทรศัพท์ค่าย True Move H หรือเป็นลูกค้า True Visions อยู่แล้ว การเลือกใช้ True Online ก็มักจะได้โปรเสริมช่วยให้บริการอื่นๆ ถูกลงไปอีกพอสมควร
ผมเป็นคนหนึ่งที่เลือกใช้ True Online ในการจัดอีเวนต์ทุกครั้ง ซึ่งในการทำงานขนาดนี้ คุณภาพย่อมมาก่อนราคาอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเจอปัญหาในการจัดงาน ซึ่งก็ยังคิดว่าจะเลือกใช้เน็ตบ้านทรูต่อไปเช่นเดิมครับ 🙂