ในแต่ละปีผมจะมี Mission ย่อยส่วนตัวที่ต้องทำให้สำเร็จ เช่นปีนี้ต้องดูฟุตบอลโลกให้ครบทุกนัดให้ได้ อะไรแบบนั้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็น Mission ไร้สาระ แต่ได้ความสนุกสนานส่วนตัว
ช่วงต้นปี 2014 นี้ อยู่ดีๆ ร้านกาแฟแบรนด์ขี้เหนียวอย่าง Starbucks กลับออกบัตรสมาชิก ให้เก็บคะแนนได้ แถมได้ Level ต่างๆ ด้วยนะ คือเราก็ชอบกินกาแฟเค้าอยู่แล้ว แต่ยิ่งมี Mission แบบนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องปราบบอสให้หมด เคลียร์ให้ได้ทุกด่าน
Starbucks Card แบ่งเป็น 3 Level ประโยชน์หลักๆ คือ
- ระดับสมาชิกปกติ : ซื้อ 12 แก้ว ฟรี 1 แก้ว
- ระดับ Green Level : ซื้อ 12 แก้ว ฟรี 1 แก้ว, ลดพิเศษตามเทศกาล และวันเกิด
- ระดับ Gold Level : ซื้อ 12 แก้ว ฟรี 1 แก้ว, ลดพิเศษตามเทศกาล และวันเกิด, และได้บัตรสีทอง มีชื่อเราแปะไว้ด้วย !!
note: benefit ของบัตรแต่ละใบมีเยอะกว่านี้ ไปอ่านในเว็บเอาละกันนะ
สำหรับการเก็บคะแนน 1 Point คือ 100 บาท ก็คิดง่าย กว่า 250 Point ก็กินไปประมาณ 25,000 บาทนั่นเอง #เฮือก
ส่วนที่ล่อตาล่อใจสุดก็คงเป็นบัตร Gold ที่ได้ชื่อเราพิมพ์ลงไปด้วย อันที่จริงก็ไม่ได้วิเศษอะไรมาก แต่มันอยากได้ง่าาาา แต่คิดจะกินคนเดียวหมด 250 Point ก็ดูจะเมากาแฟซะก่อน
วิธีเก็บแต้ม Starbucks หลักๆ ที่ผมใช้คือ
- กินเอง : ใช้วิธีเอา Starbucks เป็นที่ทำงาน แก้วเดียวนั่งมันทั้งวัน ขอน้ำเปล่าฟรีอีกตะหาก ตอนนี้รู้หมดร้านไหนมีปลั๊กไฟ ร้านไหน Wifi แรง 55
- ให้เมียกิน : อันนี้เน้นวันไหนไปกัน 2 คน เดินห้างว่างๆ ก็แวะกินเค้ก ซึ่งก็ได้แต้มเหมือนกันนะ
- รับฝากซื้อ : มันจะมีช่วงที่ Starbucks ลด 50% ซึ่งก็ต้องต่อคิว แล้วคนส่วนใหญ่ก็ขี้เกียจรอ ด้วยความว่าง บางวันผมก็ไปนั่งต่อคิวให้เพื่อนๆ ที่ออร์เดอร์ ก็ได้แต้มเยอะพอควร
- แจกบัตร : คือทำเว็บทำอีเวนต์ บางทีมันก็ต้องแจกของกันบ้าง แทนที่เราจะแจกบัตรดูหนัง หรืออย่างอื่น ก็แจกบัตร Starbucks ซะเลย ตอนแจกก็บอกคนรับว่า ขอใช้รหัสเราได้ไหม จะได้แต้มด้วย ถ้าใครยอม ก็เสร็จโจร #ฮา
ผ่านไป 10 เดือน ในที่สุดนาทีที่ซื้อ Ice Caremel Machiato ไปแก้วหนึ่ง ก็มา Email ส่งมาทันทีว่า “Welcome to Gold !!” เห็นแล้วแทบกรี๊ด ดูแลลูกค้ารวดเร็วดีมาก
รอไม่เกินเดือนกว่า ก็มีบัตร Starbucks Gold ส่งมาทางไปรษณีย์ หน้าตาไฮโซวดังนี้
หน้าบัตรมีชื่อเรา พร้อมปีที่เริ่มเก็บแต้มชุดนี้
ด้านหลังมีเลขบัตร ซึ่งลงทะเบียนชื่อเราให้เรียบร้อยแล้ว น่ารักจริงๆ
ความภูมิใจอย่างหนึ่งคือเวลาถือไปซื้อกาแฟ พนักงานดูจะ Take Care ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง (ซึ่งปกติก็ดีมากอยู่แล้ว) มีเรียกชื่อเราบ้างเป็นบางครั้ง
ถือว่าเป็นของสะสมที่ทำได้ตามหวังในปีนี้ … Mission Complete !!
ปล. แล้ว Starbucks ก็ส่งเมล์มาบอกว่าถ้าอยากได้ Gold Level ในปีหน้าอีกครั้ง ต้องกินอีก 250 Point นะจ๊ะ =___=”