รีวิว: จัดงานแต่งงานที่โรงแรม Centara Grand Bangkok ลาดพร้าว

ตั้งแต่แต่งงานมาได้ 2 ปีผมก็เขียนรีวิวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานแต่ง ทั้งตากล้อง Pre Wedding, ตากล้องวันงาน, นักดนตรี, ชุดเจ้าสาว, แต่งหน้าเจ้าสาว ฯลฯ แต่วันนี้เพิ่งมานึกออกว่า “ลืมรีวิวโรงแรม” ที่ใช้จัดงานแต่งงาน (ซะงั้น)

ด้วยความที่เวลาผ่านมาซักพักแล้ว แต่จากที่เพิ่งไปงานใน Centara มาก็พบว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งคิดว่ารีวิวตอนนี้ก็น่าจะยังมีประโยชน์สำหรับคนอ่าน ยกเว้นเรื่องราคาที่น่าจะเพิ่มขึ้นมาเยอะควร

ทำไมถึงเลือกแต่งงานที่ Centara Grand Bangkok (ลาดพร้าว)

โรงแรมถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในงานแต่งงานเลยก็ว่าได้ ถ้าใครจะจัดงานแต่งงาน เรามักจะได้ยินคำบอกกล่าวเสมอว่า “รีบจองโรงแรมก่อนเลยนะ” ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ผมกับเชอรี่ (@CherryJaja) ใช้เวลาในการหาโรงแรมที่โดนใจและอยู่ในงบประมาณนานมาก คือเลือกกันเกือบ 2 เดือน เราขยันไปสถานที่จริง ไปดูช่วงจัดงานจริง ไปคุยกับทีมงานจริง (จนได้เขียนบล็อกแนะนำ แพ็คเกจและราคาสำหรับจัดงานแต่งงานในกทม.)

วิธีเลือกโรงแรมของเราคือดูตามเงื่อนไขเรียงตามนี้

  1. ห้องจัดงานสวย
  2. เดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า
  3. ราคาโต๊ะจีนไม่เกิน 7,000 – 9,000 บาท
  4. เห็นงานที่จัดจริงแล้วประทับใจ
สมัยนี้แต่งงานมีสถานที่มากมายให้เลือก ไม่ต้องเป็นโรงแรมก็ได้ แต่เมื่อเจอเงื่อนไขห้องจัดสวยและเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ โรงแรมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเรา

หลังจากแวะไปเยี่ยมชมมาหลายสิบโรงแรมทั่วกรุงเทพ ในที่สุดเราก็ได้มาดูที่โรงแรม Centara ที่อยู่ติดห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ทีแรกก็กล้าๆ กลัวๆ เพราะแค่ชื่อ Centara ก็มีเสียงดังขึ้นมาในหัวว่า “แพง” แต่ก็ลองมาดูแล้วพบว่า
  • เป็นโรงแรมที่เดินทางสะดวกมาก มีรถไฟใต้ดิน MRT ติดห้างที่ทุกคนในกรุงเทพรู้จัก
  • แขกพักโรงแรมไม่เยอะไม่วุ่นวาย ไม่เห็นทัวร์มาลงเท่าไหร่
  • โรงแรมกำลังจะรีโนเวทใหม่ ทั้งห้องพักและห้องจัดเลี้ยง ซึ่งห้องจะสวยใกล้เคียงกับ Centara CTW เลยทีเดียว

สิ่งที่สำคัญที่ถือเป็นจุดตัดสินใจเลยคือเมื่อเราสองคนเดินเข้าไปดูห้อง ซึ่งกำลังจะจัดงานแต่งสำหรับคืนนั้นอยู่ เราพบว่าห้องใหญ่โตและสวยงามมาก เพดานสูง แสงสีสะท้อนกันดี

จนเชอรี่กุมมือผมกระโดดดีใจ “เค้าเจอสิ่งที่เค้าต้องการแล้วค่ะ !!”

เมื่อสอบถามราคาค่าโต๊ะจีนอยู่ที่ 8,400 บาทต่อโต๊ะ ถือว่าสูงอยู่เมื่อเทียบกับงบ แต่ก็ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับมาตรฐาน Centara ซึ่งโรงแรมแบรนด์ระดับนี้ปกติจะ 10,000 บาทขึ้นไป

ก่อนงานแต่ง, ทีมงาน, การติดต่อ

เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะจัดงานแต่งงานที่นี่ ขั้นตอนต่อไปก็คือหาวัน ซึ่งโชคดีที่เราสองคนไม่เชื่อเรื่องดวงหรือหมอดูใดๆ

“เอาวันที่โรงแรมว่างค่ะ” เชอรี่บอกกับฝ่ายจัดเลี้ยง ที่ฟังแล้วอึ้งไป 3 วินาที

  • เราเลือกแต่งในคืนวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันยอดฮิตที่สุด และเต็มเร็วมากๆ ก็เลยต้องกางตารางมาดู แล้วเอานิ้วจิ้มแบบไม่ต้องดูฤกษ์กันเลย
  • ได้วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554
  • เนื่องจากค่าโต๊ะเกินงบพอสมควร เลยต้องให้แม่ผมซึ่งมีกำลังภายใน ในการต่อรองราคาสูงส่ง และเส้นสายขั้นเทพ จึงได้ราคาห้องแบบก่อนรีโนเวท คือโต๊ะละ 7,800 บาท
  • จัดงานแต่งที่ Centara ค่าโต๊ะจีน 7,800 บาท !! คุ้มมาก
  • ห้องจัดเลี้ยงมี 3 ห้อง A, B, C จุแขกได้ห้องละ 200 คน ต้องเลือกเลยว่าจะเปิดกี่ห้อง
  • ถ้าเลือกเปิด 3 ห้อง เราจะต้องจองเกือบ 60 โต๊ะ, ถ้าเลือกเปิด 2 ห้องก็ต้องจองเกือบ 40 โต๊ะ
  • แขกในงานผม 400 คนก็เลยเลือกเปิดห้อง B, C เหลือห้อง A ไว้ ซึ่งก็มีแขกท่านอื่นมาจัดงาน
  • ข้อเสียอย่างหนึ่งของที่นี่คือห้องจัดใหญ่มาก ทำให้ถ้างานไม่ใหญ่จริง ก็จะต้องแบ่งห้องออกไป ถึงแม้ในงานจะไม่มีเสียงอะไรรบกวนกัน แต่ช่วงทางเดินเข้างานจะแอบงงเล็กน้อย
  • ผมพบว่าทีมงาน Centara ทำงานได้มืออาชีพสมกับมาตรฐานจริงๆ
    • ทุกอย่างมี Check List มีขั้นตอนชัดเจน ช่วยเราเช็คตลอดว่ามีอะไรขาดไปรึเปล่า
    • ทีมงานพูดจาดี น่ารัก มีทั้งฝ่ายสถานที่ กับฝ่ายจัดงานมาดูแลถึง 2 คน
    • ผมนิยมติดต่อทางอีเมล์เป็นหลัก ทีมงานส่งไว ตอบไว รายละเอียดครบ ไม่เคยต้อง replay ไปขอเพิ่ม
    • มีแผนผังจัดงานส่งมาให้ ตำแหน่งโต๊ะ, เวที, ไฟ, วงดนตรี, น้ำแข็งแกะสลักและของประดับงานทุกชิ้น บอกหมดว่าอยู่ตรงไหน และขอปรับได้เรื่อยๆ
    • เราคุยงานกับ “คุณกอล์ฟและคุณหนึ่ง” ซึ่งทั้งสองคนประสานงานได้ดีมากครับ คอนเฟิร์ม
  • เนื่องจากเรามีไอเดียแต่งหน้างานไม่มาก ก็เลยไม่ต้องมีค่าขนของเข้าซักเท่าไหร่ ถ้าใช้ Backdrop จากข้างนอก จะมีค่านำเข้า 10,000 บาท
  • สรุปค่าโต๊ะทั้งหมด 312,000 บาท จองชำระก่อน 50% และชำระอีก 50% ช่วงใกล้วันงาน
  • ราคาห้องพักในโรงแรมนี้จะประหลาดหน่อย คือจ.-พฤ. จะแพง แต่ ศ.-อา. จะถูกกว่า เข้าใจว่าเพราะแขกส่วนใหญ่มางานสัมนาในวันปกติ
เรื่องน่าประทับใจเกี่ยวกับทีมงานคือเมื่อจองห้องแล้ว โรงแรมมอบห้องพักที่ Centara กระบี่ 3 วัน 2 คืนให้ไปฮันนีมูนกันด้วย ซึ่งจริงๆ ต้องได้หลังแต่ง แต่พอดีเรามีจองเครื่องไปกระบี่ก่อนแล้ว ทีมงานเลยช่วยคุยกับผู้ใหญ่ขอให้เราไปเที่ยวกันก่อนแต่งได้ (อ่าน: รีวิว Centara กระบี่)
อีกเรื่องคือเนื่องจากช่วงปลายปี 2554 มีน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพ และเราไม่สามารถจัดงานได้ ทาง Centara ก็โทรมาพูดคุยและให้เราเลื่อนงานแต่งงานได้ ไม่มีปัญหาใดๆ แถมยังช่วยเลือกวันดีๆ เลื่อนจากเดิมไม่มากให้เรา คือได้เสาร์ที่ 14 มกราคม 2555

วันงาน, ตกแต่ง, อาหาร, อื่นๆ

เมื่อถึงวันงาน ซึ่งเป็นวันพิสูจน์ฝีมือทีมงาน และมีรายละเอียดยิบย่อยมากมายดังนี้
  • ห้องพักในโรงแรมสำหรับบ่าวสาว ใหญ่และสวยตามมาตรฐาน Centara คือดีเลยแหล่ะ
  • มีดอกไม้วางบนเตียง มีแชมเปญมาให้ถึงห้อง แล้วก็ขนมกับผลไม้นิดๆ หน่อยๆ มาเสิร์ฟ ห้องมีกระจกบานใหญ่สำหรับแต่งหน้า แต่ถ้าชอบถ่ายบนห้องตอนแต่งตัวจะไม่ค่อยมีมุมเท่าไหร่
  • เนื่องจากเวลาพูดคำว่า Centara คนก็จะนึกว่าเราไปแต่งที่ Central World เพราะฉะนั้นต้องระบุในการ์ดและบอกย้ำแขกให้ดีว่าเป็น Centara Ladprao หรือง่ายๆ คือโรงแรมในเซ็นทรัลลาดพร้าว
  • งานแต่งเริ่ม 18.00 แต่ห้องเริ่มให้เข้ามาจัดสถานที่ ตกแต่งภายนอกได้ตั้งแต่ 13.00
  • ผมมีของตกแต่งงานพอสมควร ทั้งเปียโน, Backdrop, บอร์ดโชว์รูป เวลาของมาส่งทีก็มีพนักงานโรงแรมวิ่งมา 2-3 คนช่วยยกของ ช่วยดูแล
  • ผมมีปัญหาลืมซื้อคอนแทคเลนส์ ก็เดินจากโรงแรมไปซื้อในห้างใช้เวลาไปกลับ 5 นาที รวมถึงแวะซื้อของโน่นนี่ได้ คือโรงแรมติดห้างมันดีงี้นี่เอง
  • ชื่อบนเวทีก็ตัดโฟมตามที่ได้คุยกันไว้ ผมออกแบบโลโก้มาเอง ก็ส่งไฟล์ภาพไป ทำออกมาได้ตรงตามที่ต้องการเป๊ะ
  • แต่ข้อเสีย ซึ่งเป็นข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของการแต่งที่ Centara ลาดพร้าวเลยคือ “ที่จอดรถ” 
  • คือโรงแรมใช้ที่จอดรถแชร์กับห้าง ถึงแม้ทางจะกั้นที่จอดสำหรับแขกงานแต่งไว้ให้ แต่ก็ได้แค่ 12 คันต่องานเท่านั้น
  • ซึ่งทางแก้ที่ทางโรงแรมให้มาคือบริการฝากจอดรถ คือขับไปหน้าโรงแรม แล้วให้กุญแจเด็กไปขับหาที่จอดให้ แต่ก็ทำได้ไม่กี่คัน ทางที่ดีคือย้ำกับแขกว่า “มาไวๆ เผื่อเวลาหาที่จอดรถด้วย”
  • ที่จอดรถและทางเข้ามีป้ายนำทางมาตลอด ไม่หลง ทั้งป้ายกระดาษและป้ายบนจอ
  • โต๊ะทานข้าวก็มีป้ายวางไว้ตามที่เรากำหนดว่าจะเขียนอะไร การจัดวางจานและโต๊ะสวยงาม มาตรฐาน Centara ซึ่งชอบนะ มันดูดีทีเดียว
ช่วงงานเริ่ม
  • ผมกับเชอรี่แต่งตัวและลงมาดูหน้างานช่วง 17.00 ก็พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรให้บ่าวสาวต้องปวดหัวก่อนเริ่มงานเลย
  • ผู้จัดการที่คุยงานกับเราตั้งแต่แรกได้มาดูแลงานด้วย ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องมาก็ได้ อันนี้น่ารักมาก (ไม่แน่ใจว่าเพราะรู้ว่าผมเป็นบล็อกเกอร์รึเปล่านะ 55)
  • ธีมงานเราเลือกสีชมพู แสงในงานก็ชมพูอ่อนๆ ไม่มีลำแสงประหลาดมาทำให้หน้าบ่าวสาวเป็น X-Men
  • น้ำแข็งในงาน ได้มาตั้ง 6 ก้อน ผมไม่ชอบพวกมังกรหรืออะไรตามปกติ เลยให้การบ้านไปทำเป็นรูปแอปเปิลแหว่ง, ลูกเชอรี่, หอไอเฟล และ Angry Bird (ฮาไหมล่ะ)
  • iHear Band นักดนตรีเข้ามาเซ็ทอุปกรณ์ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เข้าใจว่ามาเล่นที่นี่บ่อยด้วย
  • ผมเลือกเปิด Presentation จาก MacBook Air โดยต่อสาย VGA Out และเสียงก็เสียบสายลำโพงจากเครื่องเลย ซึ่งทางฝ่ายเทคนิครู้เข้าก็ถึงกับขวัญผวา แกบอกปกติใช้เปิดจาก DVD เอา และตัว MacBook ก็ชอบมีปัญหากับโปรเจ็คเตอร์
  • แต่งานแต่งสาวก ต้องเปิดวิดีโอด้วย MacBook สิถึงจะถูก !!
  • ซึ่งผมก็ทำแบบ DVD มาสำรองไว้ด้วย แต่จากการทดลองเปิดผ่าน MacBook ก่อนงาน 1 ชั่วโมง ไม่พบปัญหาอะไร พอถึงช่วงงาน ก็ไม่เจอปัญหาทางเทคนิคเช่นกัน
  • ทางเข้างานเป็นทางยาว ทีแรกนึกว่าจะแคบแต่พอแขกเข้ามาในงาน รวมถึงวางประดับทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่ากว้างมาก เตะบอลเล่นได้เลย
  • น้ำพุหน้าเวที ตอนคุยกับทีมงานก็งงว่ามีไว้ทำไม แต่ได้ฟรีก็เอา พอถึงในงานได้เห็นของจริง ก็เออสวยดีอยู่ มันทำให้ในห้องมีบรรยากาศร่มรื่นขึ้น 1.5%
  • เวทีในงานใหญ่กว่าที่คิดอีกเช่นกัน วางเปียโน รวมถึงเครื่องดนตรีทั้งหมดได้สบายๆ
บ่าวสาวเข้าในงาน
  • ผมมีเซอร์ไพรส์ร้องเพลงและเล่นเปียโนให้เชอรี่ได้ฟัง ต้องขอไมค์เพิ่มจากปกติ อันนี้ทีมของโรงแรมก็เตรียมไว้ให้พร้อม
  • ช่วงเดินเข้างาน ก็มีการปิดไฟ, มีแสงฟอลไล่ว์, หยุดการเสิร์ฟ, เดินขึ้นเวที, เจ้าหน้าที่เอาเก้าอี้มาวางไว้เพื่อทำเซอร์ไพรส์, เปิดไฟ ตามสเต็ปที่คุยไว้เป๊ะ ไม่หลุด อันนี้ผ่าน
  • ระหว่างช่วงบนเวที ฝ่ายเทคนิคก็ทำงานราบรื่นดี เปิด-ปิดไฟ, เปิดสไลด์ ไม่มีเสียงแปลกปลอมเข้ามา
  • ช่วงบนเวที ไมค์ไม่มีหอน ดนตรีไม่มีติดขัด พวงมาลัยใหญ่เหมือนกัน แต่โรงแรมก็ทำมาดีนะดูใส่ใจรายละเอียด
  • บนเวทีพื้นที่โคตรเยอะ มองลงมารู้สึกกว้างมาก ตากล้อง พิธีกร เจ้าบ่าวเจ้าสาว พ่อแม่ วงดนตรี ขึ้นมาบนเวทีได้หมดไม่มีเบียด
  • ช่วงตัดเค้ก มีบับเบิ้ลปล่อยลงมา ช่วงแรกปล่อยเยอะไปหน่อย แต่ผ่านไปซักพักก็ปรับพอดีๆ
  • ตอนมอบเค้กให้ผู้ใหญ่ ก็มีพนักงานเอาเค้กมาส่งให้ และมีอีกคนวิ่งไปเอาเค้กมาถือรอ
  • ช่วงโยนดอกไม้ ก็เป็นดอกไม้ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ สวยมากเลย แต่อุ้มน้ำไปหน่อย
  • ผมพบว่าห้องที่รีโนเวทใหม่ให้แสงสะท้อนที่ดี ภาพงานแต่งออกมาสวย และเพดานที่สูงมาก ทำให้ดูโล่ง และงานดูใหญ่ขึ้นมาก
  • ช่วงจบงาน ก็มีการเล่นกับเพื่อนๆ ญาติๆ เวิ่นเว้อตามประสาช่วงงานแต่งจบ พนักงานก็เก็บของไป เราก็เล่นกันไป แต่ก็เรียกเด็กมาช่วยขนของได้เรื่อยๆ

:: สรุป ::

คำแนนเต็ม 10
  • การติดต่อคุยงาน : รวดเร็วดี มีขั้นตอนชัดเจน มี Check List ทำให้ไม่หลุดหลงลืมอะไรไป (9)
  • ที่จอดรถ : น้อยเกินไป ถ้าห้างมีงานใหญ่อาจจะยิ่งจอดรถลำบาก (7)
  • ตกแต่งหน้างาน : น้ำแข็งทำได้อย่างที่หวัง, ประสานงานได้ดี, มีเวลามากพอให้ตกแต่งเพิ่ม (8.5)
  • ห้องจัดงาน : ใหญ่โต เพดานสูง ถ่ายรูปสวย (9)
  • อาหาร : สารภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่าไม่ได้กินเลย T_T แต่จากที่ฟังคนรอบตัว ก็บอกว่าอาหารอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี (8)
  • ฝ่ายเทคนิค : งานปราบเซียนในงานแต่งและมักมีข้อผิดพลาดเสมอๆ แต่งานนี้ผ่านฉลุย (9)
  • ความคุ้มค่า : ถ้าตามราคาที่ได้มา และคุณภาพที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามาก จบงานมีแขกที่เคยแต่งเข้ามาถามราคาแล้วก็บอกว่าโคตรคุ้มเลยแก (9.5)
Note: ได้ยินว่าราคาปัจจุบันน่าจะเพิ่มไปค่อนข้างเยอะแล้ว เรื่องความคุ้มค่าอาจจะนำไปอ้างอิงลำบาก
สรุปแล้วการจัดงานแต่งงานที่ Centara Grand Bangkok (ลาดพร้าว) ถือว่าเป็นงานที่ประทับใจทั้งสถานที่และทีมงานของทางโรงแรม การบริการที่ได้มาตรฐาน Centara ทุกอย่างไม่มีติดขัด
ข้อเสียที่พอจะมองเห็นคือเรื่องของที่จอดรถ ซึ่งต้องดูจำนวนแขก และดูงานในห้างว่ามีอีเวนต์ใหญ่หรือไม่ด้วย ส่วนเรื่องอาหารนั้นจัดอยู่ในระดับกลางๆ
โดยรวมแล้ว พวกเราในฐานะเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งเป็นเจ้าของงาน มีความประทับใจกับการจัดงานแต่งงานที่นี่มาก ภาพรวมแทบจะไม่เจอปัญหาอะไรเลย ภาพในงานก็ออกมาสวยสุดๆ ถ้าใครที่มองหาสถานที่จัดงานแต่ง มีงบระดับเกือบหมื่น ที่นี่ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ขอแนะนำครับ
9 / 10