ตามประสาบล็อกเกอร์นั้น เวลามีประสบการณ์ได้ไปทำอะไรเราก็มักจะเขียนและแชร์ให้คนได้อ่านกัน ในปีที่ผ่านมาผมก็บันทึกทุกเรื่อง แต่ยกเว้นเรื่องประสบการณ์ที่ได้ไปแข่งรายการ “แฟนพันธุ์แท้” แค่เรื่องเดียว ทั้งที่หลายคนเริ่มรู้จักผมจากรายการนี้
ซึ่งจริงๆ แล้วบล็อกตอนนี้ผมเขียนเอาไว้เป็นเวลานานมาก เขียนตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์จนถึงแข่งเสร็จ เพียงแต่อยากรอเวลาให้จบการแข่งแฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2012 ไปเสียก่อน ด้วยความที่ผมเขียนทุกขั้นตอนตั้งแต่คัดคนแข่ง ไปจนถึงวันจริงแบบละเอียดมาก
ในที่สุดวันนี้ก็ผ่านไปครบ 1 ปีของการแข่งแล้ว ก็น่าจะได้เวลาที่สามารถแชร์ได้สะดวก แต่เนื่องจากเนื้อหายาวมากเลยขอแบ่งเป็น 2 ตอนจ้า
ประกาศรับสมัครแฟนพันธุ์แท้ “สตีฟ จ็อบส์”
รายการแฟนพันธุ์แท้กลับมาอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ถึงจุดอิ่มตัวและปรับเป็นรายการ “SME ตีแตก” เข้ามาแทน หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี รายการในตำนานก็กลับมาอีกครั้งในปลายปี 2011 ปรากฏว่าหัวข้อที่ประกาศรับสมัครก็มีชื่อของ “แฟนพันธุ์แท้ สตีฟจ็อบส์” ด้วย กรี๊ดดดดด
ไม่นานคนรอบตัวที่รู้ข่าวก็เริ่มยุยงส่งเสริม “เห้ยเอ็ม มึงไม่สมัครนี่เสียชาติเกิดเลยนะ” เป็นประโยคที่ช่างโดนใจ 55
หลังจากที่โดนกดดันอยู่ 1 สัปดาห์ในที่สุดก็ได้เวลาร่างอีเมล์ขึ้นมาว่า “สมัครแฟนพันธุ์แท้ Steve Job” ส่งตรงไปถึงทีมงานแฟนพันธุ์แท้ รายการโปรด แล้วก็เล่าเล็กน้อยว่าชอบอะไรในจ็อบส์ และมีของสะสมอะไรบ้าง
พร้อมประกาศลั่น Timeline ทั้งทวิตเตอร์และเฟสบุ้คว่า “สมัครแล้วนะโว้ยยย เลิกกดดันตรูได้แล้ววววว”
3 วันผ่านไป …
“สวัสดีค่ะ คุณขจรใช่ไหมค่ะ โทรจากรายการแฟนพันธุ์แท้” กรี๊ดดดดดด ผมร้องในใจ
“อ๋อ ครับว่าไงครับ” เก๊กหล่อกลับ
“อยากนัดเข้ามาสัมภาษณ์หน่อยน่ะค่ะ พอจะมีเวลาว่างวันไหนบ้างคะ”
“โอ้โห ว่างครับ ว่างทุกวันเลยครับ ให้ไปวันไหนฮะ ว่างฮะ ว่างๆๆๆๆ” ขจรรีบตอบกลับแบบกลัวจะไม่ได้ไปสัมภาษณ์
แล้วทางรายการก็นัดให้ไปคุยกันช่วงหลังเลิกงานในอีกไม่กี่วันต่อมา ซึ่งความเครียดก็มาเยือนแน่นอน เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอคำถามอะไรบ้าง เลยนั่งท่องแหลกเลยฮะพี่น้อง สินค้าตัวไหนเปิดตัวอะไร วันที่เท่าไหร่ วันเกิดแก่เจ็บตายและตรัสรู้สินค้าใหม่ของจ็อบส์ (ยังกะพระเจ้า) ส่วนคุณนายเชอรี่ (@CherryJaja) ก็คอยช่วยบีบนวดๆ เอาของอร่อยๆ มาให้กินแก้เครียด <3
สัมภาษณ์คัดตัวผู้เข้าแข่ง
สิ่งที่เคยสงสัยมานานตอนที่เราเป็นคนดูคือ แฟนพันธุ์แท้เนี่ยเค้าคัดตัวกันยังไง ? ถามอะไรบ้าง โหดเหมือนตอนแข่งจริงไหม ? และมีเตี๊ยมกันรึเปล่า ?
สัมภาษณ์รอบที่ 1
- วันแรกที่เข้าไปสัมภาษณ์เป็นช่วงดึก มีแค่คนเดียว มาถึงที่ Work Point ก็เข้าไปถามที่ประชาสัมพันธ์ ได้กระดาษมาใบหนึ่ง เป็นคำถามให้เราบรรยาย เช่นชอบอะไรในสตีฟ จ็อบส์, เล่าประวัติ, อธิบายจุดเด่นต่างๆ ของเรื่องที่เราชอบ ความยาว 3 หน้า
- นั่งทำอยู่เกือบชั่วโมง ก็มีทีมงานเดินเข้ามาเรียกไปสัมภาษณ์
- ห้องสัมภาษณ์ บรรยากาศมืดๆ แอร์เย็นเจี๊ยบ มีทีมงานนั่งสัมภาษณ์อยู่ 2 คน
- ทั้ง 2 คนคือ Creative ของรายการ ทำหน้าที่คัดคนเข้ามาแข่ง, สัมภาษณ์, ตั้งคำถามในรายการ, คิดไอเดียทุกอย่าง เรียกว่าเป็นเจ้าของรายการก็ว่าได้ แต่ทำงานกันเป็นทีม
ห้องสัมภาษณ์หรือที่พวกเราเรียกกันว่าห้องเชือด อยู่ด้านในสุดประตูดำๆ |
ทำข้อสอบรอบแรก มีคุณนายเอาแอปเปิลมาให้กินเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย |
- คนแรกคือพี่จุ๊ รู้ทีหลังว่าเป็นแฟนแอปเปิลเหมือนกัน อีกคนคือคุณออฟ
- พี่แกเริ่มด้วยการให้เราลองเล่าประวัติสตีฟ จ็อบส์ให้ฟังภายใน 10 นาที จากนั้นก็ถามแต่ละช่วงว่าเรื่องนี้เป็นยังไง เล่าให้ฟังอีกหน่อย เจาะลงไปที่รายละเอียดทีละนิดๆ
- ช่วงหลังเริ่มให้เล่าเรื่องตัวเองว่าชอบอะไรในตัวสตีฟ จ็อบส์, มีความชอบมากน้อยแค่ไหน, เรื่องที่คิดว่ารู้จริงที่สุด, อะไรที่คิดว่าเราเก่งกว่าคนอื่น รู้มากกว่าคนอื่น
- คือทีมงานต้องการดูทักษะในการเล่าเรื่อง การบรรยายเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติข้อแรกของคนเข้าแข่งรายการแฟนพันธุ์แท้ สังเกตได้ว่าในรายการคนเข้าแข่งจะขยันเล่าที่มาที่ไปมาก
- คำถามที่ดูจะเล่าแล้วทำให้ทีมงานประทับใจสุดคงเป็น “วันที่สตีฟจ็อบส์เสียชีวิต เรารู้สึกยังไงบ้าง ?” ซึ่งก็เล่าไปตามจริงว่าวันนั้นช็อค น้ำตาไหล และไม่ยอมไปทำงานด้วย (โดนแซวว่าเป็นเอามากนะเนี่ย ฮา)
สัมภาษณ์รอบที่ 2
- หลายวันถัดมา ทีมงานก็โทรมาขอนัดเข้ามาสัมภาษณ์อีกรอบ (กรี๊ดดด ดีจายยยย) โดยรอบนี้บอกให้เตรียมตัวมาให้ดีเพราะจะมีคำถามแบบเจาะลึก สุดโหดด้วย
- เอาล่ะสิ กลับบ้านไม่เป็นอันทำอะไร อ่านๆๆๆๆ ดูๆๆๆๆๆ
- แต่มันง่ายซะที่ไหน เพราะเราไม่รู้นี่หว่าว่าเค้าจะถามอะไร ? จะถามเรื่องวันเปิดตัวสินค้าไหม, ถามเรื่องแฟนสตีฟจ็อบส์ไหม, ถามเรื่องบริษัทคู่แข่งรึเปล่า ?
- นอนตี 3 ทุกวันเล่นเอาตาโบ๋เบย =__=”
- มาถึงวันสัมภาษณ์ ทีมงานให้กระดาษมาทำข้อสอบอีกครั้ง คราวนี้เป็นชื่อของคนที่เกี่ยวข้องกับสตีฟ จ็อบส์ มา 42 คน ให้เขียนว่าแต่ละคนคือใคร มีความสำคัญกับจ็อบส์ยังไง ?
- เช็คเขร้ ยากชิบ บางชื่อใครจะไปตอบได้ฟะ …
- พวกของตายอย่าง Jony Ive, Steve Woz, Bill Gates นี่ไม่เท่าไหร่ แต่มาเจอพวก Daniel Levin, Issey Miyake, Daniel Kottke, Al Alcorn นี่ถ้าไม่เตรียมตัวมาดีๆ ตายหมด
- จาก 42 ข้อตอบไปได้ 39 ข้อ บางข้อก็ตอบเอาตามความคุ้นเคย ไม่รู้ถูกรึเปล่า เง้อออ
- วันนี้มีคนมาสัมภาษณ์ด้วย 4 คน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคู่แข่ง ท่าทางเก่งจุงเบย
- ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์มีน้องเข้ามาทักชื่อแมค บอกว่าเคยอ่านบล็อกของเราด้วย 55
ทำข้อสอบรอบ 2 ข้างหลังคือเค้ก ฉายาเมียสตีฟ จ็อบส์ |
แอบส่องแบงก์ พนักงาน iStudio กำลังนั่งสมาธิอยู่ 55 |
แอบส่องแมค คนเดียวที่เอา MacBook มาด้วย |
- เข้าห้องเชือดสัมภาษณ์ตัวต่อตัวอีกครั้ง คราวนี้ทีมงานเตรียมรูปมาให้ดูว่านี่คือ Apple Store สาขาไหน, สินค้าตัวนี้เปิดตัวเมื่อไหร่ และอีกหลายคำถาม ซึ่งโคตรโหด
- ทีมงานมีปรึกษาด้วยว่าถ้ารอบ 3 วินาทีถามเรื่องแอพใน iPhone, iPad จะตอบได้ไหม ซึ่งผมบอกเลยว่ามันยากมาก และไม่ค่อยเกี่ยวกับสตีฟ จ็อบส์เท่าไหร่
- รอบนี้คุยเป็นกันเองมากขึ้น เลยถามทีมงานกลับหลายอย่างเกี่ยวกับการทำรายการแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งก็น่าสนใจดี
- ทีมงาน Creative มีหลายคน บางทีก็ดึงทีมงานจากรายการอื่นมาได้ คือใน Work Point ทุกคนไปช่วยรายการอื่นๆ ได้หมด ทำงานแบบ Flexible มาก
- หัวข้อสตีฟ จ็อบส์มีคนสมัครพอสมควร ทีมงานพยายามดูจากคนที่ “รัก” ในตัวสตีฟ จ็อบส์ มากกว่า “รู้” แบบถามอะไรตอบได้
- คุณสมบัติสำคัญของคนที่จะผ่านเข้ารอบคือ รักจริง, รู้จริง, อธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้, มีมุมที่น่าสนใจ
- สิ่งที่ทีมงานกลัวที่สุดคือนัดผู้เข้าแข่งแล้วสุดท้ายป๊อด กลัว ถึงวันแข่งจริงไม่ยอมมาแข่ง ซึ่งเคยเกิดขึ้นจริง จนต้องหาคนมาแข่งแทนวุ่นวายไปหมด
- เพราะงั้นทีมงานเลยต้องเปิดรับสมัครและสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งเกินจำนวน 5 คนไว้ด้วยเผื่อกรณีฉุกเฉิน
- โดนถามว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล เลยบอกไปว่าอยากไปอเมริกา อยากไป Apple Store ที่นิวยอร์ค กับไปสำนักงานแอปเปิลซักครั้ง
- ทีมงานทำงานกันดึกมาก สัมภาษณ์เสร็จเกือบ 4 ทุ่ม ยังต้องไปรวมทีมคิดคำถามที่จะมาถามในรายการอีก ใครทำงานทีวีนี่ต้องอึดจริงจัง
- แอบถามว่าไม่มีเอกสารหรืออะไรให้เตรียมตัวเลยเหรอ ? ทีมงานยิ้มให้แล้วบอกว่า “ไม่มีครับ” (คือไม่มีเตรี๊ยมแน่นอนอ่ะ)
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตอนต่อไป … ถ่าย VTR และบรรยากาศวันแข่งจริง