ยุคนี้นับเป็นยุคทองของหนังสำหรับชาวรักร่วมเพศอย่างแท้จริง ไล่มาตั้งแต่ เพื่อนกูรักมึงว่ะ, Yes or No, Home ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต้องขอบคุณหนัง “รักแห่งสยาม” ที่เปิดทางให้กับวงการนี้อย่างแท้จริงๆ เพราะสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าความรักระหว่างชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง ก็สามารถสร้างเป็นหนังที่ดีได้
สำหรับหนังในกลุ่มหญิงรักหญิง แน่นอนว่า Yes or No เป็นผู้บุกเบิก โดยเน้นไปที่ความรักใสๆ ความสับสนไม่เข้าใจตัวเอง และดราม่าความรักในแบบญ-ญ.
ล่าสุด “วุ่นรักพักนิ้ว” หนังแนวหญิงรักหญิงอีกเรื่อง ที่เปิดตัวมาด้วยภาพลักษณ์ตรงข้ามกับ Yes or No อย่างสุดขั้ว เพราะประเด็นหลักของเรื่องนี้คือ “เซ็กส์”
เปิดตัวสุดแรงส์ !!
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กระแสของหนังวุ่นรักพักนิ้วมาแรงมากใน Social Network เมื่อมีหนังตัวอย่างที่น่าจะแรงส์ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา เพราะเปิดมาฉากแรกเธอก็จะใช้ปากทำให้กันแล้ว >///<
- ตั้งแต่คบกันมานะ นับครั้งได้เลยว่ากูฟินกี่รอบ
- มึงก็แค่ “เงี่ยน”
- นิ้วเย็นๆ จะสู้เอ็นอุ่นๆ ได้ยังไงล่ะแก
อีกความแรงคือการแสดงหนังเรื่องแรกของเน็ตไอดอลชื่อดัง “เอ็มมี่ สุนันทา เดวา” เพราะคนชอบเธอเยอะมากถึงขนาดมีคนตามใน Facebook มากกว่า 500,000 คน และคำว่า “สุนันทา เดวา คือใคร” เป็นหนึ่งในคีย์เวิร์ดยอดฮิตบนกูเกิลนะเออ
แต่นอกจากจะดังแล้ว ก็นับว่าเป็นไอดอลที่มีคนแอนตี้เยอะมากเป็นเงาตามตัว (ฮา) ซึ่งดราม่ามีอะไรบ้างก็ไปตามอ่านกันเอาเองละกันนะฮะ ^^”
เมื่อคนดัง มาเล่นหนังแรงส์ ความฮือฮาจึงบังเกิดด้วยประการฉะนี้
นักแสดง
สุนันทา เดวา (เอมมี่)
แสดงเป็นมิ ดีไซน์เนอร์สาว มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ขี้เหวี่ยง พูดตรงไปตรงมา ในเรื่องเป็นดี้ ที่ดันไปคบกับทอมที่เซ็กส์ห่วย จนมีปัญหาดราม่ากัน
เรื่องนี้เอมมี่สลับภาพสาวแบ๊ว มาเป็นสาวสุดแรง กินเหล้า สูบบุหรี่ มีความต้องการเรื่องเซ็กส์อย่างเปิดเผย
ณปภัช แช่มช้อย (แอน)
แสดงเป็นเชง พระเอกของเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นทอม เด็กเสิร์ฟในร้านกาแฟ ที่ไม่เก่งเรื่องบนเตียงเอาซะเลย ใช้นิ้วไม่เป็น ใช้ลิ้นไม่เป็น จนมิที่เป็นแฟนทนไม่ไหวต้องหนีห่าง
หมายเหตุ: เห็นหล่ออย่างนี้ ย้ำอีกครั้งว่าชื่อเล่นของน้องเค้าคือ “แอน” นะฮะ
นะ (ซ้าย) – แป้ง (ขวา) |
พจนีย์ สี่วิริยะกุล (แป้ง)
แสดงเป็นมีน ซึ่งเป็นทอม-ดี้ อีกคู่หนึ่ง คู่นี้จะตรงข้ามกันเพราะว่ามันเป็นคนเซ็กส์จัดมาก วันนึงมี 4-5 รอบ ดูหนังโป๊ทั้งวัน และเป็นคนแสดงออกไม่ค่อยเก่งด้านความรัก
ฉันธนะ กฤชกาญจนพันธ์ (นะ)
แสดงเป็นนะ หนุ่มหล่อผู้อ่อนต่อโลก ซึ่งจริงๆ แล้วแอบชอบทอม แต่ไม่กล้าบอก
มุนินทร์ และ มุตตา [ขออภัย ไม่ทราบชื่อจริง]
สองสาวกระเทยผมสีชมพูแป๊ดดดด เป็นตัวคอยชงมุขในเรื่อง สร้างความฮา และเป็นที่ปรึกษาความรักให้กับมิและเชง
เรื่องมันเป็นมายังไง ?
หนังเปิดเรื่องมาด้วยมิกับเชงมีปัญหากัน เมื่อมิอยากมีอะไรกันด้วย แต่เชงกลับไม่ยอมมี จนทั้งคู่เริ่มมีปัญหากัน เชงเลยต้องหลบไปฝึกวรบุทธการใช้นิ้วและการใช้ลิ้น เพื่อให้มิได้สุขสม โดยมีสองสาวกระเทยในร้าน มุนินทร์ และ มุตตาเป็นพี่เลี้ยง
หนังสลับไปอีกคู่ เมื่อมีน ทอมที่เซ็กส์จัดมาก ชอบดูหนังโป๊ทั้งวัน จนแฟนสาวทนไม่ไหว แยกตัวออกไป มีนได้ไปอยู่กับนะ หนุ่มหล่อที่แอบชอบเธออยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกออกไป (ผู้ชายชอบทอมเนี่ยอ่ะนะ)
เรื่องมันสลับซับซ้อนเมื่อมิ ที่กำลังเหงาไปเจอกับนะ ที่ทั้งหล่อทั้งล่ำ และมีเอ็น เอ๊ย !! เป็นผู้ชายแท้ทั้งแท่ง อู๊ววว แล้วเรื่องมันจะจบยังไงล่ะนี่ ทอมหรือผู้ชายแท้จะชนะกันนะ
หนังเล็กแต่ใจใหญ่
- หนังสร้างโดย Club Queer ค่ายหนังที่ประกาศตัวว่าทำหนังเอาใจชาวรักร่วมเพศเท่านั้น โดยหนังจะเข้าโรง Esplanade รัชดาแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น
- หลังจากนั้นคาดว่าจะฉายทางอินเทอร์เน็ต (ไม่แน่ใจว่าเก็บตังค์หรือเปล่า)
- ได้บัตรมางานรอบสื่อจากทาง Fanpage Club Queer ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
- เป็นบรรยากาศรอบสื่อที่แปลกมาก คือแทบจะไม่เจอคู่ชาย-หญิงเลย เห็นก็แต่ชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง เกี่ยวก้อยกันมาดู
- ได้เจอตัวจริงน้อง “สุนันทา เดวา” น่ารักสมคำร่ำลือ ตัวเล็กมากกกกก
- วุ่นรักพักนิ้ว ได้สปอนเซอร์จากร้าน Secant ร้านขายเสื้อสำหรับทอมโดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของก็เป็นทอมนะจ๊ะ
- หนังรอบสื่อมีความผิดพลาดทางเทคนิค เลยต้องฉายจากเครื่องเล่น DVD ซึ่งภาพออกมาไม่เต็มจอ และตอนจบไม่มีเครดิตขึ้น
- ผมชื่นชมทีมงานที่สามารถสร้างกระแสและความสนใจให้หนังได้เป็นอย่างดี แม้จะมีเสียงในแง่ลบมากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนประเภทที่อยากด่าแต่ก็อยากดูเยอะเหมือนกัน
วิจารณ์หนังแบบ Spoil แหลก
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังทุนต่ำ ซึ่งแน่นอนว่าโปรดักชันไม่สู้หนังฟอร์มใหญ่ทั่วไปอยู่แล้ว และฉายจำกัดโรง คือเฉพาะที่ Esplanade รัชดาที่เดียวเท่านั้น แต่ในเมื่อมีการฉายโรงและเก็บตังค์คนดู ก็ต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้าของความเป็นหนังฮะ
[Spoil]
- คุณจะไม่ได้เห็นฉากโป๊ เปลือย ฉากบนเตียง ฉากเห็นนม ฉากถอดเสื้อผ้า และไม่มีฉากเซ็กส์ระหว่างทอม-ดี้อย่างที่หลายคนเข้าใจ แค่ฉากจูบปากยังไม่มีเลยฮะท่าน
- หนังเปิดด้วยการเล่าเรื่องคู่มิกับเชงก่อน แล้วค่อยคู่ของมีนกับนะ
- ทอมดี้ง้องอนกันก็ดูน่ารักดี แต่บางทีก็ออกโหดไปหน่อยนะ ฮะๆ
- เชงทะเลาะกับแฟนสาว เลยต้องไปฝึกการใช้นิ้ว และการใช้ลิ้นให้ช่ำชอง ซึ่งการสอนก็ตลกและฮาดี ต้องชมน้องคู่กระเทยสองคนเป็นตัวดำเนินเรื่องได้ดี
- คู่ของมีน ทอมบ้าเซ็กส์ก็ดำเนินสลับกับคู่แรกไปแบบงงๆ สรุปคือสุดท้ายทอมก็คิดได้ และกลับไปง้อแฟน ว่าเขารักจริง ไม่ได้แค่เฉพาะเรื่องบนเตียงแค่นั้น
- หนังพยายามเชื่อมว่ามิจะไปชอบชายแท้อย่างนะ แถมยังชวนมาที่ห้อง ถอดเสื้อออก และทำท่าจะถอดกางเกงให้นะ พร้อมจะใช้ปากให้ด้วย แต่โชคร้ายที่เชงมาเห็นก่อน (ตามตัวอย่างหนัง)
- ซึ่งแท้จริงแล้ว มิแค่จะพานะมาวัดตัว เพื่อตัดชุดให้ แค่นั้น ไม่ได้จะมาอุ๊อิ๊กันบนห้องนะจ๊ะ
- นะแสดงความแมนออกมาบอกว่า เขาเป็นเกย์และไม่ได้ชอบกับมิ สุดท้ายมิกับเชนก็คืนดีกัน แถมเชนยังช่ำชองเรื่องนิ้วและลิ้นกว่าเดิมเป็นของแถม
- หนังมีคำหยาบที่ไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทยตลอดทั้งเรื่อง อี, เหี้ย, มึง, ควย, เงี่ยน, ร่าน, ชักว่าว ฯลฯ
- รวมทั้งมีการเปิดหนังโป๊ญี่ปุ่นให้เราได้ฟังเสียง อู๊ว อ๊าว อิไต๊ อิคึ ซึ่งมาแต่เสียงนะจ๊ะไม่มีภาพ (น่าเสียดายจริงๆ)
- ถามว่าใช้คำหยาบไหม ก็หยาบครับ แต่ถามว่ารับได้ไหม ก็รับได้นะ พอดูแล้วจะรู้สึกเป็นคำธรรมดาๆ ไม่รู้สึกสะกิดใจอะไร
- ภาพในหนังสวยดี การจัดแสงในห้อง ในมุมต่างๆ โอเคเลย
- แต่การตัดต่อเข้าขั้นแย่ โดยเฉพาะเรื่องของเสียง บางฉากคุยกันเสียงเบา บางฉากคุยกันเสียงดัง บางทีฉากเดียวกันแต่คนละมุมกล้อง ก็เสียงดังไม่เท่ากัน จนสังเกตได้
- ชอบฉากตลกของหนัง คือฮาทั้งโรงจริงๆ
- ฉากรัก ฉากซึ้งไม่สุดเท่าไหร่ น่าจะทำได้ดีกว่านี้
- ชอบ Ost ของหนัง “ที่ใดมีรัก” เพลงเพราะดีครับ ชอบเพลงที่มีเสียงเปียโนแบบนี้จัง
- แต่เนื่องจากหนังมี Ost เพลงเดียว เราจึงได้ยินเพลงนี้ทุกฉากซึ้ง คือมาบ่อยมากจนหลอน
- ฉากในหนังมีอยู่ 4-5 ฉาก น่าจะเพราะงบประมาณมีจำกัด แต่ก็ทำให้เราไม่ได้เห็นฉาก Outdoor ที่น่าจะเรียกอารมณ์ร่วมได้มากกว่านี้
- ฉากหนึ่งที่ทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน คือฉากที่มิใส่ผ้าเช็ดตัว และยืนกางผ้าเช็ดตัวออก แล้วเชงที่เป็นแฟนหนุ่ม(สาว) กำลังทำท่าจับกรรไกรตัดขนจิ๊มิให้มิ ฉากไม่เห็นอะไรโป๊ๆ แต่ก็เห็นขนหล่นลงพื้นทีละเส้น อู๊ยยยย
- นักแสดงทำได้พอผ่าน คือก็มีเล่นแข็งบ้าง เล่นดีบ้าง โดยรวมแล้วถือว่าโอเคครับ
เมื่อเทียบกับ Yes or No
ในเมื่อหนังประเภทนี้ที่เข้าโรงฉายในไทย มีแค่ไม่กี่เรื่อง คงเป็นไปได้ยากที่จะไม่เปรียบเทียบ “วุ่นรักพักนิ้ว” กับ “Yes or No” ซึ่งทั้งสองเรื่องมีประเด็นที่คนกลุ่มรักร่วมเพศต้องการจะบอกอะไรกับสังคม
Yes or No ชูประเด็นเรื่องความรักและการยอมรับความเป็นตัวของหญิงรักหญิงของตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ดีจนมีแฟนคลับกลุ่มหนึ่ง (ได้ยินว่าอาจจะมีภาค 3)
วุ่นรักพักนิ้ว ชูประเด็นเรื่องการรักษาสมดุลระหว่างความรักกับเซ็กส์ ถามว่าหนังออกมาดีไหม ? ก็ตอบได้ว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในเรื่องของคุณภาพงาน คือบทของหนังมีความน่าสนใจและเป็นประเด็นที่ดี แต่หนังทำได้ไม่สุด ทั้งด้านความรัก หรือด้านเซ็กส์ก็ตาม หนังเลยออกมางงๆ อย่างน่าเสียดาย
:: สรุป ::
เนื่องจากผมไม่ได้เป็นทอม-ดี้ จึงไม่สามารถตัดสินความอินกับหนังได้ เลยต้องอาศัยแอบมองคนรอบตัวแทน ซึ่งผู้ชายด้านหน้าผมนั่งหาว แต่ทอมกับสาวดี้ด้านข้างผมนั่งเช็ดน้ำตาเป็นพักๆ
ซึ่งก็น่าจะแปลความได้ว่าหนังโดนกลุ่มเป้าหมาย แต่อาจจะไม่โดนนักกับกลุ่มทั่วไป
สรุปแล้ว “วุ่นรักพักนิ้ว” เป็นหนังเล็กที่ใจใหญ่ แม้คุณภาพของหนังจะออกมาได้ไม่ดีนัก ขาดโน่นนิด ขาดนี่หน่อย แต่ก็น่าปรบมือในความกล้าที่จะออกมาบอกสังคมเมืองไทย ที่มักจะปิดตาไม่รู้ไม่ชี้ทันทีกับเรื่องเซ็กส์
หนังสนุกดี ไม่โป๊ มีคำพูดแรงๆ ตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีพิษมีภัย ดูแล้วไม่เกิดอารมณ์หรือเกิดอยากเปลี่ยนเพศแน่นอนครับ 🙂
Related Link
- Club Queer
- วุ่นรักพักนิ้ว Fanpage
- รีวิว: Yes or No อยากรักก็รักเลย – เพราะเลส ทอม ดี้ ก็มีหัวใจ
- รีวิว: Yes or No 2 รักไม่รักอย่ากั๊กเลย – เพราะมือที่ 3 ก็มีหัวใจ
l |