ได้ลองเล่น iPad รุ่นใหม่ หรือที่เรียกกันว่า The new iPad / iPad 3 / iPad HD หรือจะชื่อไหนก็เถอะ ก็ได้พบเห็นกับตัวเองว่า จอที่เค้าว่าเทพ คมนักคมหนานั้นจริงหรือเปล่า กล้องดีกว่าเดิมแค่ไหน หลังจากที่ได้อ่านรีวิวจากหลายสำนักในต่างประเทศจนน้ำลายหกมาแล้ว
เนื่องจากมีหลายสำนักรีวิวเรื่องสเป็คไปมากแล้ว รีวิวนี้จะขอเน้นที่ความรู้สึกแล้วกันครับ ว่าหลังจากได้ลองใช้มาซักพักแล้วเป็นยังไงบ้าง
หมายเหตุ: ในรีวิวนี้จะขอเรียกมันว่า “iPad ใหม่” แล้วกันนะครับ ถือว่าเป็นที่รู้กันว่ามันคือ iPad รุ่นที่ 3 ที่ออกในปี 2012
ขอบคุณ @XPeterTwiz ที่ให้ยืมเครื่องมาลองครับ
จอใหม่ – มองได้แต่อย่าชอบ เพราะมันจะทำให้ตาฉันบอบช้ำ
อย่างที่ทุกสำนักได้รีวิวไปว่าการดูภาพจากเว็บจากวิดีโอรีวิวต่างๆ ไม่สามารถทำให้คุณมองเห็นได้ว่าจอมันคมชัดแค่ไหน (เพราะเราก็มองผ่านจอที่เราใช้อยู่ทุกวัน)
สัมผัสแรกที่จะได้เห็นก็คือจอ Retina ของ iPad ใหม่นี้ ก็ต้องบอกว่ามันคมชัดจริง สีสันดูสดขึ้น ถ้าดูภาพจะเหมือนเอาภาพที่พิมพ์ออกมาแล้วมาแปะเอาไว้ที่จอเลย ถ้าดูหนัง HD ก็ชัดยิ่งกว่าดูบนจอทีวีซะอีก ผมว่าคุณได้ลองใช้งานจอนี้ไปซักพักแล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปใช้จออื่นเลย
ลองทดสอบขยาย Text ให้ใหญ่ที่สุดบนหน้าจอก็จะมองเห็นความโค้งของตัวอักษร แบบที่มองไม่เห็นจุด Pixel บนหน้าจอเลย
เมื่อลองเปลี่ยนขนาดตัวอักษรให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วมองจากไกลๆ ก็จะยังมองเห็นว่านี่คือตัวอะไร อ่านออก ซึ่งตรงนี้จะต่างจาก iPad 1, iPad 2 อย่างเห็นได้ชัด
แนะนำ: ความหมายสูตรคำนวณ Retina Display ของแอปเปิล : a = 2 arctan ( h / 2d )
เกมส์ Sky Gamblers ที่แอปเปิลโชว์ในงาน (บังคับโคตรยากเลย) |
ขยาย Font ใหญ่สุด ดูที่จุดโค้งของตัวอักษรก็ยังเนียน ไม่เห็นจุด Pixel เลย |
Capture หน้าจอมา ไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยน นอกจาก Pixel ที่เยอะขึ้น |
ขนาดเครื่อง – หนากว่าเดิม หนักกว่าเดิม
ถ้าใครที่ใช้ iPad 2 เป็นประจำ พอมาถือ iPad ใหม่แล้วจะรู้สึกได้ทันทีว่า “หนัก” ถึงจะไม่ได้หนักขนาด iPad รุ่นแรก แต่ก็ถือว่าพอสมควร ถ้าถือมือเดียวนานๆ จะรู้สึกเมื่อยได้เหมือนกัน
ถ้าเทียบน้ำหนักรุ่น Wifi แล้ว
- iPad 1 = 680 กรัม
- iPad 2 = 601 กรัม
- The new iPad = 650 กรัม
ส่วนความหนาที่หนาขึ้นเล็กน้อยนั้นแทบจะไม่รู้สึกอะไรครับ ยังคงบางเท่าๆ กับรุ่นเก่า ถ้าดูจากภายนอกแล้ว เอา iPad ใหม่มาวางข้างๆ iPad 2 จะดูไม่ออกเลยว่ารุ่นไหนคือรุ่นไหน
แนะนำ: ทำไมถึงเรียกไอแพดใหม่ว่า “The new iPad”
ซ้าย iPad ใหม่, ขวา iPad 1 |
เทียบกับ iPad 1 |
เทียบกับ Macbook Air |
ความเร็ว – แรมเยอะได้เปรียบ
แอปเปิลได้เปลี่ยนมาใช้ชิป A5X ใน iPad ใหม่ จากเดิมที่ใช้ A5 บน iPad 2 ซึ่งตามที่แอปเปิลโม้ไว้คือเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟฟิค มากกว่าความเร็วในการประมวลผล ซึ่งผลรีวิวความเร็วกราฟฟิคก็เร็วขึ้นมากจริง
แต่ถ้าใช้งานตามปกติก็จะไม่รู้สึกต่างอะไรจากเดิมมาก ความเร็วในการเล่นเว็บ เปิดโปรแกรม ทำงาน ยังคงเท่าเดิม ส่วนเกมส์ที่บอกว่าทำมาเพื่อเล่นบน iPad ใหม่นี้ บอกตามตรงว่าไม่ได้รู้สึกต่างมากจากคุณภาพที่เล่นบน iPad 2 (คงเพราะยังไม่มีเกมส์ไหนกล้าทำออกมาเพื่อเล่นบน iPad ใหม่ได้อย่างเดียวเท่านั้น)
ส่วนที่ต่างออกไปคือแรม จากเดิม 512 MB เป็น 1,024 MB ซึ่งมากกว่าเดิมเท่าตัว ซึ่งผมชอบตรงนี้มาก เพราะมันทำให้การทำงานหลายอย่างลื่นขึ้นมามาก
- ลองเปิดเว็บ Soccer Suck, Boston Picture 4 หน้า, เล่น Infinity Blade 2, เปิด iPhoto, เปิดกล้องถ่ายรูป ทั้งหมดสามารถเปิดสลับไปมาได้แบบไม่มีหน่วงเลย ไม่ต้องโหลดใหม่ คือเร็วมาก
- แรมมากขึ้นทำให้เปิดสลับโปรแกรมได้ลื่นขึ้นมาก
- แต่ถ้าเปิดโปรแกรมใหม่ขึ้นมา ความเร็วในการโหลดก็ยังเท่าเดิม
เล่นเกมส์ไปแล้วก็สังเกตุไม่ค่อยออกว่ามันต่างจาก iPad 2 ยังไงหว่า |
กล้อง – ดีกว่าเดิมมาก แต่ไม่เท่า iPhone 4S
แอปเปิลเพิ่มความละเอียดของกล้องเป็น 5 ล้านพิกเซล และใช้เทคนิคเพิ่มกระจกเลนส์แบบเดียวกับที่ใช้บน iPhone 4S ทำให้ภาพที่ถ่ายได้จะสว่างและสดใสกว่าเดิม
จากที่ลองถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืน ภาพในตอนกลางวันออกมาสวยน่าประทับใจ แม้จะไม่ได้คมชัดแบบถ่ายบน iPhone 4S แต่ก็ได้ระยะตื้นลึก สีสัน และแสงที่ดูดี
- ระยะโฟกัสดีขึ้น เวลาถ่ายระยะประชิดจะเก็นภาพหลังที่เบลอมากขึ้น
- แสงในมุมมืดจะสว่างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
- เมื่อเทียบกับกล้องของ iPhone 4 แล้วถือว่าดีกว่า ทั้งสีสันและคุณภาพ
- ถ่ายวิดีโอ ภาพกระตุกลดลงเยอะมากด้วย Image Stabilize เพราะปกติถือ iPad ถ่ายวิดีโอจะได้ภาพกระตุกๆ กว่าถ่ายบน iPhone
- กล้องหน้า(ห่วย)เหมือนเดิม
- กล้องยังไม่ดีเท่ากับ iPhone 4S
ถึงจะมีน้อยคนที่ใช้กล้อง iPad ถ่ายรูปเป็นประจำ แต่มีก็ยังดีกว่าไม่มี และตัว Image Stabilize ก็มีประโยชน์มากในการจับเครื่องขึ้นมาถ่ายเวลาเฉพาะกิจ
ภาพในสภาพแสงไม่มากก็ยังดูคมสวยดี มองเห็นฝุ่นบนหัวแมวได้เลย |
ซ้ายถ่ายโดยกล้อง The new iPad, ขวากล้อง iPhone 4 |
สรุป
เรื่องอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ทดสอบคือ 4G ที่ไม่รู้จะทดสอบยังไง, ความอึดของแบตที่ไม่มีเวลาลองที่นานพอ และความเร็วในการประมวลผลหนักๆ
แต่โดยส่วนตัวแล้วประทับใจกับความคมชัดจัดจ้านของจอมาก และแรมที่มีมากขึ้นเยอะทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ติดขัด เร็วปื๊ดๆ เลยแหล่ะ
ถ้าใครมี iPad 2 อยู่แล้ว ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นจะต้องควักเงินซื้อ iPad รุ่นใหม่นี้ เพราะ iPad 2 ก็ยังเร็วดีอยู่ และกล้องก็ไม่ได้เลวร้าย ส่วน 4G ในเมืองไทยประโยชน์ก็ยังคงเป็นศูนย์อยู่ตอนนี้ (คาดว่าคงอีกนานมากกว่าจะได้มีบุญใช้กัน)
แต่ถ้าใครที่มี iPad รุ่นแรก, ยังไม่มีแท็บเล็ต หรือใช้แท็บเล็ตตัวอื่นอยู่ ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรไป ขอแนะนำอย่างแรงๆ ว่าให้ไปลองจับ iPad ใหม่เสียก่อน สินค้าทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียครับ โดยเฉพาะจอ Retina ใหม่ที่บางคนเห็นก็บอกเฉยๆ บางคนเห็นก็บอกโอ้ว้าว
ข้อดี
- จอสวยมาก คมบาดตา ขอแนะนำให้ลองไปดูด้วยตาตัวเอง
- แรมเยอะขึ้นมาก เปิดโปรแกรมสลับไปมาลื่นสุดๆ
- กล้องหลัีงถ่ายรูปชัดดี ถ่ายวิดีโอแล้วได้ภาพนิ่งกว่าเดิมเยอะ
- หนักกว่าเดิมมาก จนรู้สึกได้
- ใช้ไปนานๆ เครื่องจะอุ่นขึ้นเหมือนกัน
- เคสบางตัวของ iPad 2 จะมีปัญหาไม่ยอมปิดหน้าจอให้ แต่ Smart Cover ของแอปเปิลจะไม่มีปัญหาอะไร
- ดูภายนอกต่างจากเดิมไม่เยอะ เอาไปโม้ลำบากว่าใช้ iPad ใหม่
จอมันคมจริงๆ นะ ^__^ |