ได้พูดคุยกับเพื่อนสาวชาวเกาหลีคนหนึ่ง หลังจากที่ผมชื่นชมว่าชอบดูหนังเกาหลี ที่ส่วนใหญ่เป็นหนังรักโรแมนติค ทำได้ซาบซึ้งกินใจ เนื้อหาดี พร้อมกับบ่นว่าหนังไทยมีแต่หนังตลกโปกฮา ทุกปีจะมีหนังตลกเข้าโรงเกือบ 10 เรื่อง
“คุณเคยฟังเพลงชาติเกาหลีรึยัง ?” สาวเกาหลีถาม
ผมตอบไปว่าเคยฟังผ่านๆ เธอเล่าให้ฟังว่าเพลงชาติเกาหลีนั้นเป็นเพลงที่เศร้า ฟังแล้วจะร้องไห้ สะท้อนความเป็นคนเกาหลีอย่างมาก เพราะประวัติศาสตร์ของประเทศเธอมีแต่สงคราม คนแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายจนต้องแยกประเทศออกจากกัน
ทุกเช้าเธอต้องตื่นขึ้นมารับฟังข่าวความโหดร้ายของฝ่ายเหนือ (เกาหลีเหนือ) เธอบอกว่าให้ผมลองหลับตานึกภาพคนกรุงเทพกับคนเชียงใหม่ต้องมาถือปืนไล่ยิงกันให้ตาย คุณจะเข้าใจความเจ็บปวดนี้
“เพราะฉะนั้นในจิตสำนึกของคนเกาหลีจึงต้องการความรักมากเป็นพิเศษ จึงไม่แปลกเลยที่เราทำแต่หนังรัก เพราะเราอยากให้คนรักกัน ยิ่งซึ้งกินใจแค่ไหน คนยิ่งอยากดู”
เธอเล่าต่อว่าครั้งแรกที่เธอได้ฟังเพลงชาติไทย เธอรู้สึกว่าเป็นเพลงที่สนุกสนาน ฟังแล้วอารมณ์ดี สะท้อนภาพของคนไทยที่ทั้งโลกเห็นเหมือนกันว่าเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย หัวเราะตลอดเวลา
เธอบอกว่าไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเมืองไทยถึงมีแต่หนังตลก ถ้าหนังรักก็เป็นแนว romantic comedy ซะส่วนใหญ่ เธอวิเคราะห์ว่ามันสะท้อนความเป็นคนไทย โดยการมองผ่านเพลงชาติเข้ามา
“แต่คนในเมืองหลวงจะชอบบอกนะว่าเบื่อหนังตลก ไม่อยากดูตลก” ผมถาม
“แล้วคุณคิดว่าคนในกรุงโซลไม่เบื่อหนังรักเหรอ ? พวกเราก็เอียนมันจะแย่อยู่แล้วล่ะ ฮะๆ”
เธอเชื่อว่าหนังตลกไทย ถ้ายังทำออกมาได้ก็แปลว่ามีคนดู แล้วก็รายได้ดี คนเมืองอาจจะเบื่อแต่คนต่างจังหวัดอาจจะไม่ ก็ไม่ต่างกับหนังเกาหลีที่ทำหนังรักออกมาเท่าไหร่ คนก็ยังคงดูอยู่ต่อไปนั่นเอง