จะว่าไปก็ไม่น่าเชื่อว่าผมจะไม่เคยไปงาน Barcamp เลยซักครั้งเดียว อาจจะเพราะทุกครั้งที่มีงาน มักจะมาชนกับช่วงที่ไม่ว่างพอดี (ส่วนใหญ่คือติดเรียนและกลับบ้านนอก)
กฏของ Barcamp คือไปงานมาแล้วต้องเขียนบล็อก เลยขอเขียนแบบเร็วจี๋ 10 นาทีเสร็จ
เพราะงั้นครั้งนี้จริงเป็น Barcamp ครั้งแรกของผมเลยครับ มาครั้งแรกก็เปิดซิงขอพูด Session กับเค้าด้วย
งานจัดที่ม.เกษตร แต่ปัญหาคือจัดเช้ามาก คือ 9 โมงวันอาทิตย์ ซึ่งไม่ใช่เวลาตื่นของ Geek ซักเท่าไหร่ แต่ก็ปลุกตัวเองขึ้นมาจนได้ เพราะเสียดายถ้ามาไม่ทันแล้ว Slide ที่นั่งปั่นเมื่อคืนก็เป็นง่อยไปซะก่อน
ไปถึงก็พบ Geek คับคั่ง มากหน้าหลายตา มีทั้งคุ้นหน้าและคุ้นชื่อ
ลงทะเบียน น้องๆ สต๊าฟที่คณะวิศวะ มากันเยอะมาก ดูพร้อมและเตรียมงานกันมาดี ถามใครก็รู้เรื่อง แก้ปัญหาให้ได้ โดยเฉพาะเรื่อง Wifi อันนี้ขอชมว่าจัดได้ดีครับ
นั่งรองาน ไปคุยกับ @Blltz นั่งเล่น Windows 8 รองานเปิด (มันเจ๋งจริงๆ นะ)
ตามธรรมเนียมก็ใครที่อยากจะพูดอะไร ก็ไปเสนอหัวข้อไว้ ทีมงานก็จะเอาป้ายหัวข้อของคุณไปแปะ คนที่สนใจอยากเข้าฟังก็จะเข้ามาโหวตกัน
ช่วงนี้สนุกมากเพราะได้เห็น Session ที่หลากหลายมากมาย รวมแล้วงานนี้มี Session ให้ฟังมากถึง 48 Session เลยทีเดียว !! (Link: ตาราง Session ทั้งหมด)
ผู้คนล้นหลามมาก
@macroart กับ @pinnynoy ก็มาเช่นกัน งานนี้ทีมงาน Pantip 3G มีหัวข้อมาพูด 2 เรื่องเลย น่าสนใจมาก
ช่วงโหวตนี่สนุกมาก สำหรับเราที่เป็นคนเสนอหัวข้อก็จะแอบยืนเช็คเรตติ้งอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
ซักพักทีมงานก็จะเริ่มเอาหัวข้อมาแปะบอร์ดว่าหัวข้ออะไร พูดห้องไหน กี่โมง
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าหัวข้อ “Geek อย่างไรให้ไม่โสด” จะมีคนสนใจมากขนาดนี้
เปิดงาน เรียบง่ายมาก มีน้องนศ. 2 คนมาแนะนำกำหนดการและวิธีการเข้าฟังสั้นๆ แล้วก็เริ่มงานกันเลย
(สาววิศวะฯ เกษตรก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย)
Session แรก ทีแรกผมอยากไปฟัง Pantip 3G มาก แต่ไปเจ๊อะกับหัวข้อนี้ซะก่อน
“From Microsoft to Google – Life Expereicne of Thai Engineer who works in their HQ“
โดยพี่ Brad Phaisan
ตารางแต่ละ Session ให้เช็คกันออนไลน์เลย ว่าห้องไหนเรื่องอะไร กี่โมง อัพเดตตลอดเวลา
สมเป็นงาน Geek
พี่แบทแกพูดโดย Skype เข้ามาในงาน แล้วก็ให้น้องคนที่อยู่หน้าห้องคอยกด Slide ให้ ถึงเสียงจะขาดๆ หายๆ บ้าง แต่ก็เป็นการพูด Session ที่ Geek โคตร และคนสนใจ Session นี้คับคั่งมาก น่าจะเกือบร้อย
จดเอาไว้พอสมควร เอามาแชร์หน่อย
– พี่แบ็ทจบจากม.เกษตร เริ่มงานที่ Microsoft Headquater ที่อเมริกา ทำงานถึงปี 2011 ก็เพิ่งมาเริ่มงานกับกูเกิล
– ทำงานที่ Headquater มาตลอด ตอนนี้ก็ทำอยู่ที่ Mountrain View ของกูเกิลเลย เทพมาก
– เฉพาะที่สำนักงานใหญ่ จำนวนคนไทยที่ทำงานไมโครซอฟท์ประมาณ 40-70 คน ส่วนกูเกิลตอนนี้มีคนไทย 6-8 คน
– สำนักงานใหญ่ไมโครซอฟท์ใหญ่ประมาณม.เกษตร
– ห้องทำงานที่ไมโครซอฟท์ จะเหมือนอยู่มหาลัย http://twitpic.com/6ml3aj
– สำนักงานกูเกิลจะไม่ค่อยมีต้นไม้ เพราะที่แพงกว่ามาก แต่มี benefit ที่ดีมาก โดยเฉพาะอาหาร สปา ฯลฯ
– ไมโครซอฟท์ทุกคนจะมีห้องเป็นของตัวเอง เพราะที่เยอะมาก แต่กูเกิลจะทำงานในห้องเปิด ทุกคนมองเห็นกันหมด
– รูปที่เป็น Joke ไปทั่วเน็ตเกี่ยวกับองค์กร พี่แบทยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง http://twitpic.com/6ml7kz
– ไมโครซอฟท์ทีมนึงใหญ่มาก ขนาดเป็นร้อยคน การจะย้ายทีมเหมือนจะย้ายบริษัท ทำให้เกิดความขัดแย้ง เกลียดชังได้ง่ายมาก
– กูเกิลองค์กรจะไม่มีหัวหน้าที่แน่ชัด หัวหน้าทำหน้าที่เหมือนอาจารย์ที่ปรึกษา แค่แนะนำว่าควรทำอะไร แต่เราจะเป็นคนเลือกเองว่าอยากทำอะไร
– ปัญหาคืองานแต่ละคนจะไม่โฟกัส เพราะโปรเจ็คเยอะมาก ผู้บริหารสั่งการได้ไม่เต็มที่ว่าจะให้ทำอะไร ไปทางไหน
– เวลาทำซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์จะเริ่มจาก PM ให้ list สิ่งที่ทำมา Dev ก็เขียนไป พอถึงเวลา QA ก็จะเอามา Test แล้วคุยกันผ่าน Bug Report
– ส่วนกูเกิล ด้วยความเชื่อว่า Plan เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา PM จะวาง Feature ไว้แล้ว Dev ก็ทำ Release บ่อยๆ เพิ่มทีละนิดๆ (เหมือน Chorme)
– แนะนำคนไทยที่อยากสมัครไปทำ Headquater Microsoft , Google ถ้าสมัครผ่านเว็บโอกาสได้ต่ำมาก แนะนำให้หาคนรู้จักแล้วสมัครดีกว่า
รูปโดย @charathBank
ช่วง 10.40 ถึงเวลา Session ผมพอดี คนมาฟังเต็มห้อง เยอะเกินคาดมาก น่าจะประมาณ 40-50 คนมั้ง
โชคดีที่เป็นหัวข้อขำๆ พูดไปเรื่อย เล่มมุขไปเรื่อย ฮาๆ
แอบขอรูปสาวๆ มาจาก @FordAntiTrust เรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที
ข้อเสียอย่างนึงคือคนเข้าๆ ออกๆ ห้องตลอดเวลา เพราะแต่ละ Session บางทีจบไม่พร้อมกัน บางทีคนก็เพิ่งมางาน แต่ก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ครับ แค่หยุดพูดเป็นระยะๆ เท่านั้น
ส่วนใครสนใจว่าพูดอะไรบ้าง เดี๋ยวรอบล็อกตอนหน้าละกันครับจะเอามาแชร์ให้อ่านกัน
หลังจากนั้นก็ไปฟังตลกคณะแบไต๋เชิญยิ้ม ที่พี่ @nuishow @ripmilla @sharkshows มากันครบ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา)
เที่ยงกินข้าวกัน พอดีผมติดธุระช่วงบ่าย เลยได้แค่ฟังและพูด Session ตอนเช้าเท่านั้น
เอาไว้งานรอบหน้าจะไม่พลาดครับ
ยังไงขอบคุณทีมงาน และผู้สนับสนุนทุกท่านที่จัดงานดีๆ แบบนี้ด้วยครับ หวังว่าปีหน้าคงได้พบกันใหม่