“เรามาถ่าย Pre Wedding ในชุดนักเรียนกันเถอะ !!” ผมปิ๊งไอเดียขึ้นมา
“ก็ดีค่ะ … แต่คือ เราจะไม่แก่กันเกินไปที่จะมาใส่ชุดนักเรียนเหรอ ?” ประโยคนี้ของเชอรี่เล่นเอาผมแตะเบรคเอี๊ยดดด
ถึงผมจะเชื่อมั่นในพลังของ Photoshop แต่ยังไงเราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาตั้ง 16 ปีแล้ว แถมตัวอย่างคนที่ถ่ายแนวนี้ก็มีน้อยมากจนเล่นเอาความมั่นใจหดหายไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันพ่อที่เราสองคนกลับไปบ้านที่ขอนแก่น ก็ได้แวะไปที่ร้าน ส.แสงสุวรรณ์ ร้านขายชุดนักเรียนชื่อดังที่อุดหนุนมาตั้งแต่เด็ก เรานึกสนุกลองทำตัวว่าเป็นเด็กม.ต้น (ที่อายุเกือบ 30) พกความมั่นใจเข้าไปเลือกซื้อชุดนักเรียนในร้านแบบเนียนๆ
ปรากฏว่าพนักงานในร้านก็ไม่ได้ทำหน้าตาแปลกใจอะไร หยิบชุดมาให้เราลองกันอย่างปกติดี
ว่าแล้วผมเลยใส่ชุดนักเรียนไปบอกอาเฮียเจ้าของร้านว่าเราสองคนตั้งใจจะซื้อชุดไปถ่าย Pre Wedding ซึ่งเฮียแกก็ทำหน้าตกใจมาก แต่ก็ยินดีและขอสนับสนุน คิดราคาถูกพิเศษ แถมยังให้เรายืมกระเป๋านักเรียนมาถ่ายรูปฟรีๆ อีกด้วย เล่นเอาเราสองคนตัวลอย มั่นใจว่าถ่ายรูปงานนี้น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ><
จากนั้นเราก็ไปนั่งคุยไอเดียกับตากล้อง CJ Photo ซึ่งก็คือน้องริน น้องชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ของผมนี่เอง ด้วยความที่ทุกคนก็มีประสบการณ์ร่วมในยุคนั้นเป็นอย่างดี ไอเดียดีๆ จึงไหลออกมามากมายเต็มไปหมด
- ทุกคนเห็นด้วยว่าไม่ต้องการรูปในแบบมองกล้อง มองฟ้า เก๊กหล่อสวย แต่เราอยากให้ทุกรูปมีเรื่องราว มีที่มาที่ไป มีประสบการณ์ร่วมที่ใครเห็นก็รับรู้ถึงช่วงเวลานั้นได้
- ธีมเลยเป็นการดำเนินเรื่องราวเหมือนแสดงหนัง แล้วมีตากล้องคอยแอบถ่ายมุมต่างๆ ของเหตุการณ์ ซึ่งผมก็ต้องกลับไปเขียนบทออกมาให้ครบทุกเรื่องราวภายในรั้วโรงเรียน
- เพิ่มฉากที่มีในหนังอย่าง Season Change, สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก เข้าไปด้วย (โชคดีที่เราถ่ายทำก่อนที่หนังเรื่อง SuckSeed จะเข้า ไม่งั้นอาจจะได้เห็นฉากเชอรี่ขึ้นไปควงกีตาร์บนเวที [ฮา])
- ตกลงวันถ่ายที่เหมาะสมที่สุดคือวันปีใหม่ 1 มกราคม 2554 ซึ่งโรงเรียนหยุดยาว
- ค่าชุดนักเรียน เสื้อ กางเกง กระโปรง โบว์ เข็มขัด ถุงเท้า รองเท้า รวม 1,570 บาท
- ค่าอุปกรณ์ประกอบฉากทั้งหมด 450 บาท
- ค่าตากล้อง ฟรี !! เพราะน้องรินอยากถ่ายให้ (แต่ภายหลังผมก็ซื้อ Apple Magic Mouse ไปขอบคุณ)
- รวมค่าใช้จ่าย ~2,000 บาท ถูกกว่าเช่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว 6 เท่า
:: ดูสถานที่ ::
พวกเราเข้าไปขออนุญาตใช้สถานที่โรงเรียนในการถ่ายทำอย่างเป็นทางการ จากอาจารย์ฝ่ายสถานที่ของโรงเรียน ซึ่งอาจารย์พอได้ยินเรื่องราวของเราก็ยินดีมาก จูงมือเราไปเม๊าให้อาจารย์ท่านอื่นๆ ที่เมื่อฟังแล้วก็เฮฮายินดีด้วยกับลูกศิษย์ทั้งสองคน 🙂
เนื่องจากวันถ่ายทำเป็นวันหยุด อาจารย์จึงไปฝากเรื่องไว้กับพี่ยามว่าให้ดูแลเราสองคนด้วยในวันปีใหม่ ได้ยินแล้วซึ้งใจและขอบคุณอาจารย์ทุกท่านมากๆ ครับที่สนับสนุน
คืนวันสิ้นปี 31 ธันวาคม เราไปทดสอบกล้องกันเล็กน้อยด้วยการถ่ายภาพกับพลุฉลองปีใหม่ที่ประตูเมือง เสร็จแล้วก็แยกย้ายไปพักผ่อน นัดหมาย 7 โมงเช้าพรุ่งนี้ !!
:: เริ่มถ่ายทำ, อาจารย์ตัวจริง, อาจารย์จำเป็น ::
7 โมงเช้า นายแบบพร้อม นางแบบพร้อม อุปกรณ์พร้อม .. แต่ตากล้องยังไม่ตื่น -_-“
เราสองคนต้องไปปลุกตากล้องสุดหล่อของเราถึงเตียง เห็นบอกว่าเมื่อคืนเตรียมโน่นนี่ดึกไปหน่อย
สำหรับการถ่ายทำที่ดี ควรจะต้องมีผู้กำกับ ผู้ช่วย เบ๊ถือของ ตากล้องเบื้องหลัง ซึ่งเรายกหน้าที่ทั้งหมดให้กับแก้ม พี่สาวคนสวย (โสด) ของตากล้องของเรานี่เอง
ขนของกันแต่เช้า |
สไตร์ลิสและผู้กำกับของเรา |
ตากล้องสุดหล่อ |
ยืนดูคุณนายวิ่งอย่างสนุกสนาน |
เป็นนักเรียนที่แอบโบ๊ะอย่างสม่ำเสมอ |
อุปกรณ์ประกอบฉากเพียบ |
ช่วงเช้าอากาศดีมาก แสงเหมาะแก่การถ่ายรูปสุดๆ เราต้องรีบจัดเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม มีการโบ๊ะแป้งเล็กน้อย แต่งดเครื่องสำอางเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้อารมณ์นักเรียน
ถ่ายไปได้ไม่กี่ใบ ก็พบกับท่านอาจารย์ตัวจริงที่ต้องมาเป็นเวรในวันนี้ เราจึงเข้าไปพูดคุยตามประสาอาจารย์ลูกศิษย์กันอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งขอเชิญอาจารย์มาเข้าฉากเทศน์นักเรียนมาสาย ซึ่งอาจารย์บอกว่าถนัดมากเรื่องนี้ เอากี่รอบบอกได้เลย ^^”
นอกจากนี้เรายังได้อาจารย์รับเชิญอีก 2 ท่านมาเข้าฉาก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนแรกคือท่านพ่อของผม ส่วนอีกคนคือท่านแม่ของน้องรินตากล้องของเรานี่เอง (จึงเป็นเรื่องที่ฮามากเมื่อเราได้อ่านคอมเม้นต์ที่บอกว่า จำอาจารย์ท่านนี้ๆ ได้ ที่เคยสอนวิชาคณิตใช่ไม๊คะ …)
ท่านพ่อมาช่วยถือไม้เรียวเป็นอาจารย์ให้ |
ติดสติ๊กเกอร์ใส่เสื้อในฉากวันวาเลนไทน์ |
ภาพที่ใช้ทำปก ในมุมจากด้านข้าง |
:: อุปสรรค, ฉากหลุดๆ ::
แน่นอนว่างานละเอียดอ่อนแบบนี้ย่อมต้องมีอุปสรรคบ้าง
- ห้องเรียนบนอาคารใหญ่ๆ ปิดหมด ทำให้ต้องใช้ห้องเรียนในอาคารเล็กแทน ซึ่งห้องค่อนข้างทึบและแสงน้อย แถมเก้าอี้บางตัวก็เป็นไม้ บางตัวเป็นพลาสติค (cc ท่านผู้อำนวยการได้ไหมครับนี่)
- ถึงจะขออนุญาตมาแล้วแต่การนำธงชาติลงมาจากยอดเสาก็ทำให้พี่ยามหวาดเสียวเอามากๆ จนต้องมาดึงสายด้วยตัวเอง
- การยืนขาเดียว แล้วคาบไม้บรรทัด พร้อมทั้งเอาหนังสือวางบนหัว เป็นเรื่องยากขั้นเทพ จนต้องถ่ายหลายรอบ
- ไม่น่าเชื่อว่าเราจะหาซื้อมะม่วงไม่ได้เลย จนต้องโทรวานให้ท่านพ่อขับรถไปหาซื้อให้
- จักรยานของโรงเรียนยางแบนและโซ่ขาด !!
- ฉากกางปกเทปออกมา ทีแรกใช้ปกฝันดีฝันเด่น แต่ปรากฏว่าสีแรดเกินกว่าตากล้องจะรับได้ เลยเปลี่ยนเป็นลิฟท์กะออยแทน
- ถึงจะเป็นการถ่าย Pre Wedding แต่ด้วยความเคารพในตราสถาบันที่อยู่บนอก และชุดนักเรียนที่ใส่อยู่ เราจึงต้องระวังไม่ให้อยู่ใกล้กันจนเกินงาม รวมถึงท่าทางต่างๆ ด้วย
- เนื่องจากนายแบบนางแบบเริ่มอายุมากแล้ว >< ถ่ายไปซักร้อยรูปก็เหนื่อย จนต้องพักเป็นระยะๆ #แก่
การถ่ายทำเริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าและจบที่เวลาทุ่มตรง ถ่ายภาพไปทั้งหมด 800 กว่าใบ วิดีโอความยาวกว่าชั่วโมง ต้องขอขอบคุณทีมงาน ตากล้อง ผู้ช่วย อาจารย์จำเป็นทั้ง 2 ท่าน ขอบคุณท่านอาจารย์ฝ่ายอาคารและสถานที่ ที่อนุญาตให้เราได้ใช้สถานที่ ให้เราได้ทำตามความฝันของเราทั้งสองคน
และสุดท้ายก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมอัลบั้มภาพเล็กๆ ของเราอัลบั้มนี้ครับ 🙂
ทีมงาน L. O. V. E. |
:: ความประทับใจ ::
ผมพบว่าเรื่องที่ดีที่สุดของการถ่ายทำในครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่ภาพถ่าย แต่มันคือการที่เราสองคนได้กลับมาใส่ชุดนักเรียนอีกครั้ง ได้วิ่งแบกเป้เข้าประตูโรงเรียน ได้นั่งบนสแตนด์ที่ครั้งนึงเคยตากแดดร้อนด้วยกัน ได้นั่งในห้องเรียน ได้หยิบจดหมายฉบับเก่าๆ ขึ้นมาอ่าน ฯลฯ
จนในช่วงเวลาหนึ่งผมและเชอรี่ก็รู้สึกว่าเรากลับไปเป็นเด็กม. 2 เข้าจริงๆ เราไม่กล้าเดินใกล้กัน เราคุยกันด้วยชื่อแปลกๆ ที่เรียกกันสมัยก่อน เราไม่กล้าสบตากัน .. ในฉากที่ต้องมองตากัน มันเขินอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ความทรงจำนั้นมันมีค่าแค่ไหน และมันก็คุ้มค่าที่เราจะเก็บมันไว้ ทุกเวลาที่ผ่านไปมันมีค่าเหลือเกิน โดยเฉพาะเวลาที่เรามีให้กับคนที่เรารัก ทุกนาที ทุกวินาที มันก็คุ้มค่าที่เราจะขอเก็บมันใส่กุญแจไว้ .. ความทรงจำเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีความหมายยิ่ง อย่าปล่อยให้มันต้องจางหายไปกับกาลเวลาครับ