งานอดิเรกอย่างนึงของผมคือการนั่งอ่านคำคม ผมชอบคำคม คำพูดของหลายๆ คนที่มีความหมายดีๆ จนโต๊ะที่ทำงานจะมีบอร์ดแม่เหล็กเล็กๆ อยู่อันนึง ถ้าวันไหนว่างก็จะหยิบเอากระดาษมาเขียนคำที่ชอบ แล้วเอามาแปะไว้อ่านเล่นเป็นบางเวลา
คำบางคำ ถ้าเราได้รู้ถึงที่มาและความหมายจริงแท้ของมัน คำนั้นจะฟังแล้วกินใจมากกว่าเดิมมากเลย
ผมมีเพื่อนชาวเกาหลีอยู่คนนึง ซึ่งเธอเป็นแฟนของเพื่อนสนิทผมอีกที .. ตามประสาเวลาที่เราได้พูดคุยกับคนที่อยู่ต่างแดน เราก็อยากจะถามอะไรหลายๆ อย่างเพื่อศึกษาความนึกคิดของคนต่างชาติ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างภาษากัน
มีครั้งนึงที่ผมถามเธอว่า เธอคิดยังไงกับอนาคตของตัวเอง .. จะมาอยู่เมืองไทยรึเปล่า ? หรือจะยังอยู่ที่เกาหลี ? ครอบครัวล่ะ ? งานล่ะ ? แล้วคิดว่าหลังจากนี้จะทำอะไร ?
เธอนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วก็อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาว่า
ผมนั่งอึ้งไปซักพักนึง .. เชื่อว่าหลายคนอาจจะฟังแล้ว มันก็คงเป็นคำพูดสวยๆ คำนึง .. แต่สำหรับผม ที่พอจะรู้ และเข้าใจในความหมายลึกๆ ของสิ่งที่เธอพูดออกมา มันทำให้คำพูดนี้มันช่างมีความหมายมากเหลือเกิน
โดยส่วนตัว ผมมีความเชื่ออยู่ 2 อย่าง
หนึ่ง .. เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้
สอง .. เราไม่รู้อนาคต
บางคนจมอยู่แต่กับอดีต .. ในขณะที่บางคน ฝันถึงแต่กับอนาคต .. จนลืมสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
การไม่สนใจอดีต มันก็ดูเป็นคนลืมตัว ? .. การไม่มองไปในอนาคต มันก็เหมือนคนไม่รู้จักวางแผน ?
แต่ผมเชื่อในปัจจุบันมากกว่า อดีตมันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรามาแล้วนับไม่ถ้วน .. และอาจจะมีอะไรอีกมากมายหลายต่อหลายอย่างที่รอเราอยู่ข้างหน้า อาจจะมากเสียจนเราตั้งตัวไม่ทัน ..
เพราะงั้นขอแค่เรามีวันนี้ ขอแค่เรามีความสุข กับสิ่งที่เป็นอยู่ อีกแป๊บนึงก็จะผ่านไปแล้วอีก 1 วินาที .. หลังจากที่เราอ่านประโยคเมื่อกี้ไป เวลาก็ผ่านไปแล้วอีก 2 วินาที .. เวลาไม่รอใคร ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ..
no plan .. no future .. no tomorrow .. just for today
🙂