ว่ากันว่า 1 วันก่อนงานแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวาย วิ่งกันไปมา ค่าโทรศัพท์พุ่งกระฉูด บางงานมีเรื่องให้ลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว
โชคดีที่งานแต่งงานผมไม่มีพิธีหมั้นในช่วงเช้า เนื่องจากเรายกงานหมั้นไปจัดล่วงหน้าที่ขอนแก่นแล้ว เหลือก็เพียงงานแต่งงานซึ่งเป็นงานรอบเย็นเท่านั้น บล็อกตอนนี้นอกจากจะแชร์บรรยากาศในช่วงเตรียมงานแล้ว ก็จะมีข้อมูลราคาของที่เราซื้อมาหน้างานด้วยครับ เผื่อใครคิดที่จะลองจัดงานแต่งเองแบบเรา ToT
หนึ่งวันก่อนวันงาน
งานแต่งงานของเราจัดขึ้นที่โรงแรม Centara Grand Bangkok (เซ็นทรัลลาดพร้าว) โดยปกติทางโรงแรมจะจัดห้องพักให้คู่บ่าวสาว 1 ห้องฟรีอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเราจัดงานทุกอย่างเอง ไม่มีออแกไนซ์เซอร์ เราเลยเปิดห้องที่โรงแรมนอนเพิ่มอีก 1 คืนก่อนงาน และใช้เป็นห้องเก็บของซะเลย (อิๆ)
เช้าวันก่อนงาน (ศุกร์) ทางโรงแรมส่งรถลิมูซีน (จริงๆ แล้วเป็น Toyota Camry แต่ก็เรียกตามที่รร.จัดเพื่อความฮายโซววว)
ของทุกอย่างขนมาที่โรงแรม มีอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เยอะมากจนไม่น่าเชื่อ อันประกอบไปด้วย
- ของชำร่วยทั้งหมด 650 ชิ้น ใส่กล่องมา 14 กล่อง (ทำเอง)
- การ์ตูน iStory 200 เล่ม ใส่กล่องมา 4 กล่อง
- กล่องใส่ซองรูปไปรษณีย์ ซื้อเอง 600 บาท
- กรอบรูปใหญ่มาก 5 ชิ้น กรอบเล็ก 11 ชิ้น ค่ากรอบรูป 3,160 บาท
- อัลบั้ม LCD หน้างาน 3,000 บาท
- ตุ๊กตา Angry Bird สำหรับช่วงโยนดอกไม้ แกล้งสาวๆ 650 บาท
- หุ่นใส่ชุดนักเรียน 2 ตัว ราคา 1,100 บาท
- ป้ายฮาๆ สำหรับถ่ายรูปในงาน ราคา 300 บาท (ทำเอง)
- ปากกาสีสำหรับเซ็นต์บนเสื้อนักเรียน
 |
| การ์ตูนมาส่งให้ก่อนวันงานแบบฉิวเฉียด |
นอกจากนั้นก็เป็นของจำเป็นที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด แต่ก็เยอะจนต้องทำเป็น List ไว้ว่าเราเอามาครบไม่ลืม
- แหวนแต่งงาน
- ชุดแต่งงานเจ้าสาว สร้อย รองเท้า
- ชุดแต่งงานเจ้าบ่าว สูท กางเกง ไทด์ รองเท้า
- DVD สไลด์ที่เปิดในงาน
- ผังที่นั่ง ตารางสคริปต์งาน รายชื่อแขก
เรียกว่าของเยอะเต็มห้องไปหมด นอนไปด้วยมองของสำหรับจัดงานแต่งงานไปด้วย ก็ตลกดีเหมือนกัน โดยเฉพาะหุ่นใส่ชุดนักเรียนนี่ พอดึกๆ แล้วมันดูหลอนมากบอกไม่ถูก >o<~~
สิ่งที่ต้องเตือนตัวเองอย่างเดียวสำหรับคู่บ่าวสาวในคืนก่อนงานคือ … นอนเร็วๆๆๆๆๆๆๆ
 |
| ห้องน้ำเป็นกระจกใส กรี๊ดดดดดด |
เช้าวันงาน 14 ม.ค. 2555
ช่วงเช้าเรามีงานยกน้ำชาให้พ่อแม่และญาติๆ นิดหน่อย ไม่เกิน 11.00 ก็เสร็จเรียบร้อย ซึ่งก็มีเวลาเตรียมตัวเยอะมาก สำหรับก่อนจะถึงงานกลางคืนที่เวลา 18.00 น.
ข้าวเที่ยงก่อนงาน เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะคู่บ่าวสาวจะแทบไม่ได้กินอะไรอีกเลยหลังจากนั้น ซึ่งเราสองคนก็ซัดข้าวหน้าเป็ด MK กันแบบไม่ยั้ง (โชคดีมากที่จัดรร.ติดเซ็นทรัลลาดพร้าว เดินไปเดินมาได้)
13.00 – ช่างแต่งหน้าทำผมมาถึง ก็เป็นช่วงเวลาแสนสนุกของเชอรี่ที่ต้องทำหน้านิ่งไปอีก 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
 |
| Krispy Kreme เสบียงอาหาร |
 |
| ใส่คอนแทคเลนส์แท้จริงแสนลำบาก |
ส่วนผมว่าง ก็เลยไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าว ซื้อคอนแทคเลนส์แบบรายวันมาใส่ แต่เนื่องจากเคยใส่เอง 1 ครั้งถ้วนตอนดูคอนเสิร์ต X-Japan .. ก็กว่าจะใส่ได้ก็นั่งในร้านเกือบ 40 นาที -_-“
14.00 – กลับมาที่ห้อง เชอรี่ยังคงสนุกสนานกับการแต่งหน้าอยู่เช่นเคย ส่วนผมก็เตรียมตัวรับความมันส์ในช่วงหลังจากนี้ เมื่อทีมงานจากที่ต่างๆ จะเริ่มทยอยมาแล้ว และผมต้องลงไปดูทุกอย่างเอง (บอกแล้วว่างานนี้ทำเองหมด)
14.30 – ทีมงานแรกมาแล้วคือช่างติดตั้งเปียโนจากสยามกลการ ผมก็ต้องลงไปช่วยกำกับว่าจะวางเปียโนตรงไหน เอียงกี่องศา แล้วก็นั่งจูนเสียงไปกับช่างที่มา เพื่อกันเสียงเพี้ยน
14.45 – ทีมงานติดตั้งแบ็คดรอป (Backdrop) จาก Big Ant Production มาถึง อันนี้ผมไม่ได้ดูอะไรมาก เพียงแต่บอกว่าให้จัดดอกไม้ที่ตำแหน่งไหน
ช่วงนี้เริ่มเห็นทีมงานของโรงแรมเริ่มจัดสถานที่แล้ว ทั้งเวที ป้าย และโต๊ะทานข้าว
 |
| ทีมงานทดสอบปล่อยบับเบิ้ลช่วงตัดเค้ก อันนี้โรงแรมแถมให้ครับ |
 |
| น้ำพุน้อยหน้าเวที รร.แถมให้เช่นกัน |
15.00 – ทีมงานติดตั้งบอร์ดถ่ายรูปหน้างานก็มาถึงอีกราย ผมขอให้น้องๆ ที่แต่งตัวเสร็จแล้วช่วยกันยกของลงมาตั้งที่หน้างาน จากนั้นก็คุยกับช่างติดตั้งว่าจะติดรูปที่ตำแหน่งไหนบ้าง
 |
| ทีมตากล้องมาแล้ววว |
15.30 – ทีมตากล้องภาพนิ่งและวิดีโอจาก Loveroom Wedding มาแล้วววว (โทรศัพท์ดังไม่หยุดครับช่วงนี้) หลังจากนี้ผมก็ต้องอยู่กับเชอรี่บนห้องตลอดเวลาละ เพราะตากล้องต้องเก็บภาพตลอดเวลา โชคดีที่เตรียมน้องสาวเชอรี่เป็นผู้ช่วยไว้คนหนึ่ง ให้มาคุมงานข้างล่างแทน
Note: ควรอย่างยิ่งที่จะมีผู้ช่วย ที่ตัดสินใจแทนเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ อย่างน้อย 2 คน แต่ถ้าผู้ช่วยเป็นผู้หญิง ควรบอกกันแต่เนิ่นๆ ว่าให้ทำสวยให้เสร็จล่วงหน้า 3 ชั่วโมง
16.30 – แต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย โชคดีที่เราพยายามคุมเวลาให้ทุกอย่างเสร็จก่อนงานเริ่ม 1 ชั่วโมง เราสองคนก็ลงมาดูงาน ซ้อมร้องเพลง และพิธีต่างๆ นิดหน่อย
ช่วงนี้สาวๆ ทีมหน้างาน พิธีกร พ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เริ่มมากันพร้อมหน้า ทุกคนดูสบายๆ มาก เพราะลูกคนที่ 4 แล้วที่แต่ง ทั้งบ้านเลยไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ (ไม่เหมือนเจ้าบ่าวกะเจ้าสาวเล๊ยยยย)
มีเรื่องน่าตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อแผ่น DVD สไลด์โชว์มีปัญหาทางเทคนิค เลยขอทางโรงแรมต่อสายเข้ากับ Macbook Air และฉายมันขึ้นจอแบบนั้นเลย ซึ่งทางโรงแรมก็ไม่แนะนำ แต่หลังจากลองกันหลายรอบ มันก็ออกมาโอเคดี … รอดไป *___*”
 |
| เตรียมสไลด์เอง ถือ Macbook วิ่งไปวิ่งมา |
16.40 – วงดนตรี iHear มาแล้ว แถมไม่ได้มากันธรรมดา เพราะพวกพี่แกใส่ชุดนักเรียนมาด้วย !! พอเข้าไปคุยกับพี่ @plajazz ก็ได้ความว่าพี่แกเคยเห็นรูปในบล็อกที่ใส่ชุดนักเรียน เลยอยากใส่ชุดมาให้เข้ากับงานของเรา แล้วชุดนี่ก็ซื้อใหม่ด้วยนะ #กรี๊ดดดดดด
เล่นเอาเจ้าบ่าวเจ้าสาวตาค้างกันไปเลย ถึงความใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่มีค่ามากเลยครับสำหรับเราสองคน ขอบคุณวง iHear มากมาย
ในงานช่วงท้าย เราจะมีร้องเพลงร่วมกัน 1 เพลง (ซึ่งจนถึงตอนนี้เชอรี่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเซอร์ไพรส์) ก็เลยต้องมาซ้อมกันนิดหน่อย พอให้หายตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย
สุดท้ายก็ซ้อมเดินเข้างาน จริงๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันก็ยากเหมือนกันนะ บางจังหวะต้องเลี้ยว บางจังหวะต้องหยุด เพื่อจัดกระโปรงเจ้าสาว โดยเฉพาะช่วงขึ้นลงบันไดนี่ปราบเซียนเลยทีเดียว
 |
| กล่องใส่ซอง กับของชำร่วย |
 |
| การ์ตูน iStory |
สุดท้ายเราเดินรอบงานหนึ่งรอบเพื่อดูว่าที่วางแผนไว้ ทุกอย่างครบถ้วนดี ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยที่ต้องเป็นทั้งคนจัดงานและเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่มันก็มีความสุขมากเลยครับที่ได้เห็นสิ่งที่เราเตรียมตัวมาตลอด 1 ปี ออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลางานแล้วคร๊าบบบบบ ติดตามตอนต่อไป …
 |
| เชอรี่ – เอ็ม |
