น่าแปลกที่ช่วงนี้คนรอบตัวผมเป็นโรคเดียวกันหมดเลย คือโรค “คาถามหาน” หรือ “คานถามหา” (จะผวนให้ยากทำไมนิ)
รูปแบบของโรคค่อนข้างพบได้บ่อย คือคบหาดูใจกับแฟนมาตั้งแต่มหาลัย คบกันมาได้นาน 5-7 ปี แล้วก็มีอันต้องเลิกกัน ลืมตาตื่นขึ้นมาดูอายุตัวเอง ก็อายุปาเข้าไป 28,29,30+ กันแล้ว และต้องไม่ลืมไปอัพเดตใน Facebook ประมาณว่า “มาเลิกอะไรเอาตอนนี้ !! อายุปูนนี้แล้วฉันจะไปหาใครได้(ว๊าาา)”
จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรหรอกนะครับ แต่ในรอบหลายเดือนมานี้หลังแต่งงานเสร็จ ก็มีคนเข้ามาถามพอสมควรว่าทำยังไงถึงได้ชอบพอกันมาตั้ง 16 ปี โดยที่ไม่เบื่อกันซะก่อน แถมสุดท้ายยังได้แต่งงานกันอีกด้วย
เอาเป็นว่าก็ขอแชร์เรื่องของการรักษาความรักให้ยืนยาว ในยุคที่อะไรก็ต้องมาเร็วไปเร็วเสียหมด หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย 🙂
ไม่มีคำว่านานเกินไป
อันนี้ไม่ได้หมายถึงให้เลิกนับนะครับว่าเราคบกันมากี่ปีแล้ว แต่หมายถึงไม่ว่าคุณจะคบกันมา 1 ปี หรือ 7 ปี มันก็ไม่ได้หมายความว่าความรักมันจะมากขึ้นหรือน้อยลงไปตามเวลา
คือผมไม่เชื่อว่าคนคบกันมา 7 ปีแต่งงาน จะรักกันมากกว่าคนที่คบกันมา 3 เดือนแล้วแต่ง ระยะเวลามันวัดอะไรไม่ได้เลยครับ มีแต่ความรู้สึกเท่านั้นแหล่ะที่วัดกันได้
ผู้ชายคนนี้ยังทำให้ใจคุณเต้นตุบๆ เหมือนครั้งแรกที่จับมือได้อยู่รึเปล่า ?
ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นคนที่สวยที่สุด น่ารักที่สุดในสายตาคุณอยู่รึเปล่า ?
บางทีที่เรามัวแต่มองเวลา เราอาจจะรู้สึกว่า “เฮ้ยนี่เราคบกัน 5 ปีแล้วนะ คนอื่นเค้า 3 ปีก็แต่งแล้ว”
แต่เราลืมมองที่หัวใจรึเปล่าครับ ว่าจริงๆ แล้วตอนนี้เรารักเค้าแค่ไหน เค้ารักเราแค่ไหนกันนะ เราสองคนมาถึงจุดไหนกันแล้ว อย่าเอาเวลามาตัดสินความรักของเราเอง
ผู้หญิงอย่ามากไป ผู้ชายอย่าน้อยไป
เคยเป็นไหมครับที่ฝ่ายหญิงวางแผนไปเที่ยวกันสองคน วางแผนพาแฟนไปบ้าน ชวนไปช๊อปปิ้งดูหนังฟังเพลง แต่ผู้ชายไม่อยากเจอ อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ อยากพักผ่อนให้หายเหนื่อย นอนดูบอล เล่นเกมส์ชิวๆ ซักวันนึง
เราทุกคนต้องการความพอดีครับ เรารู้ว่าความพอดีคือจุดที่ดีที่สุดของคนสองคน แต่บ่อยครั้งที่ผู้หญิงมักจะมากเกินพอดี และผู้ชายเองก็มักที่จะน้อยเกินพอดี
ผู้หญิงเค้าก็อยากโทรหา อยากรู้ว่าทำอะไรอยู่ อยากชวนไปเที่ยว อยากมีเค้าอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา
ผู้ชายบางอารมณ์ก็อยากอยู่คนเดียว วันหยุดก็อยากเล่นเกมส์ให้เคลียร์ซักชุด อยากไปเตะบอล อยู่กับเพือนฝูงโดยที่ไม่มีฝ่ายหญิงบ้าง
เราสองคนมาจากดาวคนละดวงกันครับ โปรดระลึกไว้ว่าเราไม่เหมือนกันและไม่มีวันที่จะเหมือนกันด้วย เพราะฉะนั้นลองสำรวจตัวเองดูว่าตอนนี้เรามากไปจริงรึเปล่า ? แล้วเราน้อยไปจริงไหม ? ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณมากไป ก็จงลดลง ถ้าคุณคิดว่าเค้าน้อยเกินไป ก็ลองพยายามเข้าใจเค้าบ้าง
สุดท้ายก็ต้องพูดคุยกันตรงๆ ครับ และหาจุดที่เรียกกันว่า “ความพอดี“
รวมมิตรสิ่งที่ไม่ควรทำ
หลายสิ่งต่อไปนี้เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ แต่ลองสำรวจดูไหมครับว่า แล้วเรายังทำอยู่รึเปล่า ?
ผู้หญิง
- โทรจิก โทรตาม แอบเช็คโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย
- ขี้งอนแต่ไม่พูด น้อยใจแต่ไม่บอก ไม่แสดงออกแล้ว(ควายเผือก)จะรู้ไม๊คร๊าบบบ
- ทวงถามสิ่งที่ควรจะได้อยู่ตลอดเวลา “ตอนคบกันแรกๆ นะ …”, “สมัยก่อนนะ …”
- เวลาทะเลาะกันแล้วใช้แต่อารมณ์ เหวี่ยง โมโห ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ในโลกนี้
- พูดแต่เรื่องแต่งงานบ่อยๆ ต้องการคำมั่นจากอีกฝ่ายไวๆ ประชดประชันเรื่องคนอื่นที่ได้แต่งงานแล้ว
ผู้ชาย
- สนใจแต่ผู้หญิงคนอื่น ให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่าแฟนของตัวเอง
- พูดจาขวานผ่าซาก ไม่พูดจาดีๆ น่ารักๆ เหมือนสมัยคบกันใหม่ๆ
- อยู่กับตัวเอง อยู่กับงานอดิเรก อยู่กับเพื่อนในกลุ่มมากเกินไป
- เวลาทะเลาะกันเอาแต่หาเหตุผล ไม่ดูเลยว่าอีกฝ่ายต้องการแค่ความรักความเข้าใจ
- พยายามหนีทุกครั้งที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอนาคต เรื่องแต่งงาน
เวลามีปัญหา เราผิดทั้งสองฝ่าย
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีหมด 100% เต็มหรอกครับ ผมไม่เชื่อว่าการที่คนเราเลิกกัน มันจะเกิดมาจากความผิดของฝ่ายหนึ่งทั้งหมด 100% แต่อีกฝ่ายไม่ผิดเลย 0%
อาจจะเป็นธรรมชาติของคนไทยก็ได้ครับ ที่เวลามีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น เรามักจะชี้นิ้วไปที่คนอื่นก่อนเสมอ ดูได้จากนักการเมือง หรือผู้บริหารบริษัทต่างๆ ซึ่งตรงข้ามกับประเทศอย่างญี่ปุ่นที่เวลามีปัญหา เค้าจะโทษตัวเองก่อน แล้วถ้าตัวเองไม่ผิดจริงๆ ค่อยมองไปที่อื่น
คนเราเลิกกันก็มักจะมีเหตุผลมากมายที่จะบอกว่าอีกฝ่ายไม่ดีอย่างไร และก็มีเหตุผลอีกมากมายเหมือนกัน ที่จะมาบอกว่าเราทำดีแล้วยังไงบ้าง
ผมกับ @CherryJaja เรามีกฏข้อหนึ่งซึ่งผมชอบมันมาก
“ถ้าทะเลาะกัน ตอนสุดท้ายต้องขอโทษซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครจะถูกหรือใครจะผิดก็ตาม”
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะได้ผล เราแทบจะไม่เคยเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้กลับมาพูดกันใหม่ คนเราถ้ายอมรับว่าตัวเองผิด มันจะช่วยให้เราอยากปรับปรุงตัวเองครับ หรือถ้าอีกฝ่ายขอโทษ เราก็พร้อมที่จะให้อภัยเช่นเดียวกัน
10 ข้อควรทำ
สุดท้ายก็มีข้อแนะนำดีๆ ที่(อาจจะ)ช่วยให้รักษาความรักของคุณได้ยืนยาวมากขึ้นครับ
- ยิ้มให้กันทุกครั้งที่เจอ เวลาเรานัดกับใคร ถ้าแว่บแรกของการเจอกันเป็นรอยยิ้ม มันทำให้โลกสดใสน่าอยู่ครับ อย่าลืมจับมือกันให้มากขึ้น มองตากันให้มากขึ้น
- เข้าใจธรรมชาติของอีกฝ่ายให้มาก แนะนำให้ลองอ่านหนังสือ “ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์” มันช่วยได้จริงๆ ผมรับรองได้
- เรื่องความรัก ผู้หญิงควรจะมั่นใจในตัวผู้ชายให้มากเข้าไว้ ส่วนผู้ชายก็ควรสร้างความมั่นใจให้ผู้หญิงเช่นกันว่าจะไม่หนีไปไหน
- ทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ บ้าง
- ผู้หญิงลองเขียนเรื่องที่คุณประทับใจในคนรัก สิ่งที่คุณปลื้มอีกฝ่ายมากเป็นพิเศษ เขียนเป็นจดหมายส่งให้ หรือโพสต์ลงใน Social Network ไหนก็ได้ บอกให้ใครรู้ว่าเค้าทำให้คุณมีความสุขมากแค่ไหน
- ผู้ชายลองหาซื้อดอกไม้หรือของขวัญให้อีกฝ่าย พาเธอไปดินเนอร์สองคนในโอกาสพิเศษ เป็นเรื่องเบสิคมากแต่ผู้หญิงก็ชอบทุกคน ทำให้เค้ารู้ว่าสำหรับวันนี้ เค้ายังคงเป็นคนสำคัญเสมอ
- พูดคุยกันให้มากครับ อย่าเก็บไว้ ไม่มีอะไรดีกว่าการเปิดใจคุยกันในทุกเรื่อง แต่ต้องไม่มากจนเกินไปนะ เอาแค่พอให้เราเข้าใจกันและกันให้มากที่สุดก็พอ
- เว้นระยะห่าง อย่าติดกันจนเกินไป ให้พื้นที่หายใจบ้าง แต่ก็ยังมองเห็นกันอยู่เสมอ
- คุณผู้ชายควรระลึกไว้ว่่าการทิ้งผู้หญิงที่คบกันมานานตอนอายุ 30+ เป็นบาปหนัก
- ส่วนคุณผู้หญิง ควรระลึกไว้ว่่าถ้าคุณกลับไปเป็นคนสดใส น่ารัก เหมือนกับวันแรกที่คบกัน ไม่มีใครทิ้งคุณได้แน่นอน
- ค่านิยมที่ว่าผู้ชายเจ้าชู้ ทำตัวโสดเสมอ ไม่ได้เท่ห์หรอกนะครับ ผู้ชายที่รักแฟน ดูแลเอาอกเอาใจ เป็นแฟมิลี่แมนรักครอบครัว มันดูเท่ห์กว่าเยอะเลยเชื่อผมเถอะ
- สุดท้ายจะได้แต่งหรือไม่ได้แต่ง มันไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้เรารักกันมากแค่ไหนครับ ถ้าคนสองคนรักและเข้าใจกัน เชื่อเถอะครับว่าอนาคตที่ดี ต้องรอเราอยู่ข้างหน้าแน่นอน รักแท้ต้องดูแลให้ได้ครับ 🙂
Related Link