เรื่องมันก็มีอยู่ว่า .. เมื่อปีที่แล้วผมได้จองตั๋วเครื่องบินไปกระบี่ด้วยโปรโมชันบิน 0 บาท ของแอร์เอเชียได้เป็นผลสำเร็จ (ภูมิใจมากที่ไปแย่งกะชาวบ้านมาได้) ในเวลาต่อมาเมื่อต้นปี ผมได้ไปจองโรงแรมจัดงานแต่งที่ Sofitel Centara Grand Bangkok ตามที่ได้ประกาศไปแล้ว
ซึ่งทางโรงแรมก็ใจดีมาก ให้เราได้ไปพักฮันนีมูนที่โรงแรมเซ็นทารา กระบี่ 2 คืนพอดี เราจึงขอทางโรงแรมว่าเนื่องจากเราสองคนจะต้องไปกระบี่อยู่แล้ว จึงขอเข้าพักล่วงหน้าแทน
สรุปแล้วทริปนี้เราได้ไปเที่ยวกระบี่ด้วยตั๋วเครื่องไปกลับ 0 บาท และที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาวฟรี 2 คืนครับ
[@CherryJaja] : เย๊ๆ เป็นการฮันนีมูนล่วงหน้าที่ประหยัดสุดๆ เลยคร๊าาาา (^o^)/
เลยขอรีวิวโรงแรมที่ดีที่สุดที่ผมเคยพักมาให้ได้ดูกันครับ
คำเตือน: รูปเยอะมากจนต้องแบ่งเป็น 2 ตอน ><
:: การเดินทาง ::
โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทแอนด์วิลล่า กระบี่ (ชื่อโคตรยาว) มีความพิเศษกว่าโรงแรมทั่วไปตรงที่สิงสถิตอยู่ในซอกภูเขา บริเวณอ่าวนาง จากรูปจะเห็นว่าไม่ติดถนน เพราะฉะนั้นเส้นทางเดียวที่จะเข้าโรงแรมได้คือทางเรือเท่านั้น !!
เมื่อลงจากเครื่องบินแล้ว จริงๆ ทางโรงแรมมีรถไปรับ แต่มีค่าใช้จ่ายแพงพอสมควร เราเลยเลือกนั่งรถบัสเข้าเมืองคนละ 150 บาท ซึ่งพอบอกคนขับว่าพักที่เซ็นทาราก็จะรู้ทางทันที
ทางโรงแรมทำที่พักแขกไว้ก่อนถึงอ่าวนาง (สีฟ้า ตามรูป) ใครจะไปพักที่เซ็นทาราควรมาเริ่มที่จุดนี้ก่อน เพราะเป็นทั้งที่จอดรถ ที่พักผ่อนหลบฝน และมีเจ้าหน้าที่ดูแลแขกเป็นอย่างดี
|
ป้ายทางเข้าอยู่หน้าถนนใหญ่ ควรขับรถในซอย อย่าเดิน เข้าไปเพราะลึกพอสมควร |
|
ที่พักแขกไฮโซว |
|
ที่นั่งเยอะพอสมควร มีบริการน้ำ ผ้าเย็นต้อนรับ |
|
เมื่อถึงเวลาเรือจากโรงแรมจะมาถึง ก็จะมีรถตู้พาไปที่ท่าเรือ |
เนื่องจากการเข้าออกโรงแรม จะต้องใช้เรือเท่านั้น ทำให้การเรือไปกลับต้องมีการจอง เพราะถึงเรือจะใหญ่พอจุคนได้หลายสิบ แต่บางรอบก็มีกระเป๋าของแขกที่ทั้ง check in และ check out มาจากโรงแรมด้วยเหมือนกัน
ช่วงไฮต์ซีซัน เรือมีทุกชั่วโมง แต่ในช่วงโลว์ก็ต้องเช็คกับเจ้าหน้าที่กันอีกที ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาทีถึงโรงแรม
|
ท่าเรือ บริเวณหาด นพรัตน์ธารา |
|
เรือนั่งได้ประมาณเที่ยวละ 15-20 คน ใหญ่พอสมควร |
:: โรงแรม ::
จังหวัดกระบี่มีกฏห้ามสร้างอาคารสูง เพราะงั้นเราจะไม่เห็นโรงแรมสูงใหญ่แบบในพัทยาหรือหัวหิน เซ็นทารากระบี่ก็เช่นกัน ห้องพักจะอยู่ไล่ตามเนินเขาขึ้นไป มองจากทะเลเข้ามาจะเห็นว่าถูกล้อมด้วยภูเขา ไม่ติดถนนเลย มองไปก็คิดในใจเหมือนกันว่าสร้างได้ยังไงนี่
|
ซ้าย ขวา หลัง เป็นภูเขา ข้างหน้าเป็นทะเล |
|
สร้างห้องพักแบบขั้นบรรได (ผมคิดชื่อเอง) |
|
ถึงเวลาเรือมา เจ้าหน้าที่โรงแรมจะไปรอที่ท่าเรือลอยน้ำของโรงแรม |
|
ท่าเรือลอยน้ำ (เท่ห์มาก) เวลามีคลื่นมาเราก็จะเล่นเวฟกันเป็นหมู่คณะ |
|
เรือทำช่องทางเดินขึ้นท่าลอยน้ำไว้ด้วย แต่ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยจับ |
|
ป้ายโรงแรมเรียบง่ายมาก |
ก่อนจะมาพักที่นี่ผมก็หาข้อมูลมาพอสมควร แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่า จะสร้างโรงแรมให้มันเดินทางเข้าออกยากไปทำไมกันนะ ?
แต่หลังจากก้าวแรกที่เข้ามาถึง ก็เลยเข้าใจเลยว่า ..
- วิวสวยครับ สวยมากจริงๆ ผมไม่เคยเห็นวิวโรงแรมไหนสวยเท่านี้มาก่อน ถึงแม้จะเคยดูรูปจากในเว็บมาบ้างแล้ว แต่ของจริงสวยกว่านั้นมาก
- โปรดนึกภาพ .. ตื่นนอนขึ้นมา ออกไปริมระเบียง ซ้ายภูเขา ขวาภูเขา ตรงหน้าเป็นทะเล มีโขดหินอยู่มุมซ้าย ภาพแบบนี้หาไม่ได้ที่พัทยา หัวหิน ชะอำแน่นอน
- ความเป็นส่วนตัวระดับที่ส่วนตัวมาก เป็นหาดและโรงแรมที่ไม่มีคนนอกมาเดินเล่นได้เลย
- ปลอดภัยครับ ผมวางกระเป๋าไว้ที่นอนอาบแดดได้ โดยไม่ต้องกลัวของหาย
|
ทานข้าวริมชายหาด |
|
วิวจากห้องพักในยามเช้า |
- ภายในโรงแรม (จริงๆ ควรเรียกว่ารีสอร์ทแต่ไม่ชินเท่าไหร่) ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นธรรมชาติ ต้นไม้เยอะๆ
- สังเกตุเห็นพนักงานคอยเก็บใบไม้ทุกครั้งที่มีลมพัด หรือฝนตก ทำให้มองไปจะดูสะอาดตาตลอด
- ไม่มีเคาน์เตอร์เช็คอิน !! เพราะไม่มีการวอร์คอินมาพัก คนที่นั่งเรือมาได้คือต้องจองห้องพักก่อนแล้ว เมื่อมาถึงก็แค่นั่งรอพนักงานพาขึ้นไปที่ห้องพัก
- มีน้ำกระเจี๊ยบโซดาและผ้าเย็นต้อนรับเหมือนเคย
|
ห้องพักแบบวิลล่า (คืนละสองหมื่น) |
|
ทางเดินก็ดูเรียบง่ายมาก สะอาดตาดี |
|
หน้าทางเข้า Check-in |
|
บริเวณ Reception นั่งรอพนักงานพาขึ้นไปที่ห้องพัก |
|
น้ำกระเจี๊ยบโซดาต้อนรับ |
|
ผ้าเย็น (ตอนเดินทางมาถึง ร้อนจนแทบวิญญาณหลุดจากร่าง) |
- โรงแรมทั่วไปเวลาเข้าห้องพักต้องใช้ลิฟท์ แต่ที่นี่ต้องใช้รถพาขึ้น(เขา)ไปที่ห้อง จริงๆ จะเดินขึ้นไปเองก็ได้แต่บางห้องก็อยู่สูงมากจนเดินไม่ไหว
- ยิ่งสูงยิ่งแพง
- ใช้รถไฟฟ้าตามสมัยนิยม นั่งได้ 5-6 คน เท่าที่เห็นมีอยู่ 5 คัน
- ถึงจะมีรถเยอะแต่บางเวลาก็ไม่พอ เพราะแขกก็มักจะเข้าออกห้องพักพร้อมๆ กัน บางคนลงมาแล้วลืมของก็ต้องนั่งรถกลับขึ้นไปอีก ลองนึกภาพว่าพนักงานขับรถต้องทำหน้าที่เหมือนลิฟท์ตามโรงแรมทั่วไป
- ผมใช้บริการแค่ขาขึ้น ส่วนขาลงก็เดินเองได้ ชมวิวไปด้วยสวยดี
|
มองถนนจากมุมข้างบน จะเห็นว่าทางชันพอสมควร |
|
รถไฟฟ้า พาเข้าออกห้องพัก |
:: ห้องพัก ::
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับโรงแรมก็คงหนีไม่พ้นห้องพัก ซึ่งที่พักของเซ็นทาราเน้นที่บรรยากาศริมชายหาด เรียบหรู กว้างขวาง ห้องขนาดเล็กที่สุดก็ปาเข้าไป 72 ตารางเมตรแล้ว ด้วยความกว้างขนาดนี้ทำให้ทุกห้องมีที่รับแขก ห้องน้ำ ห้องนอน ระเบียงพร้อมที่นอนอาบแดด
แน่นอนว่าทุกห้องเป็นมุมทะเล (Sea View) แต่เนื่องจากโรงแรมหันไปทางทิศตะวันตก เลยจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตอนเช้า จะเห็นเฉพาะช่วงบ่ายและเย็นแทน
- ห้องพักแบบที่ไม่ใช่วิลล่า (บ้าน) ก็จะเป็นเหมือนอาคารเล็กๆ สามชั้น ลองดูรูปประกอบ
- ห้องที่ผมพักเป็นห้อง Spa Deluxe Ocean Facing
- แต่ละห้องจะมีม่านที่เปิดปิดได้ เพื่อความเป็นส่วนตัว มีม่านทั้งจากนอกห้อง และจากในห้อง
|
ห้องพักเป็นอาคารเล็กๆ 3 ชั้นแล้วแยกห้อง |
|
ห้องรับแขก มีโต๊ะและที่นอนเล่น |
|
ม่านนอกห้องสามารถเปิดปิดได้ (กดปุ่มแล้วจะเลื่อนขึ้นลงให้อัตโนมัติ เท่ห์มาก) |
|
ระเบียงมีที่นอนอาบแดดชมวิว 2 เตียง และอ่างจากุชชี่ !! |
- สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็ครบ ทีวีจอแบน, เครื่อง DVD, ตู้เย็น, มินิบาร์, ผ้าคลุมอาบน้ำ, ถ้วย แก้ว จาน ช้อน ซ้อม
- โดยปกติจะมีผลไม้ต้อนรับให้ด้วย แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดห้องผมจึงไม่มี (อันนี้มารู้ทีหลังตอนกลับมาทม. แล้ว แต่ก็ comment บอกไปทางเว็บของรร.)
- เรามาบอกพนักงานตอนที่มาถึงแล้วว่ามาพักแบบฮันนีมูน ซึ่งพนักงานตกใจมาก บอกว่าไม่ได้เตรียมห้องในแบบฮันนีมูนไว้ให้ แต่ถ้ารอได้ก็จะรีบจัดห้องไห้ ซึ่งเราก็ไปทานข้าวรอกันก่อน มาถึงที่ห้องก็ได้ธีมฮันนีมูนดังรูปครับ
|
[แต่งห้องธีมฮันนีมูน] เรียงดอกกุหลาบเป็นคำว่า Welcome ข้างเตียงนอนมีที่วางของและโคมไฟทั้งสองด้าน |
|
ดอกกุหลาบวางบนเตียง ดูใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ดี |
|
มินิบาร์ ดูเย็น ที่ชงกาแฟ อุปกรณ์ ครบมากๆ (น้ำฟรีวันละ 4 ขวด) |
|
โต๊ะทานอาหาร เสาข้างล่างมีหลอดไฟอยู่ข้างใน ปรับลดแสงได้ ตอนกลางคืนจะสวยมาก |
|
อ่างอาบน้ำ ก็โรยดอกไม้ไว้ด้วย |
|
อย่าคิดว่าต้องก้าวเข้ามาในอ่างแล้วก็อาบน้ำในนั้น … เพราะที่อาบน้ำจริงๆ อยู่ข้างๆ กัน สังเกตุฝักบัวขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบนทางซ้าย |
|
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 2 ตู้ มีตู้เซฟอยู่ทางขวามือ |
|
กระจกกับอ่างล้างหน้า ผ้าเช็ดมือ แก้วแปลงฟัน มีไดร์เป่าผมให้ด้วย |
|
เวลาแขกออกไปข้างนอก พอกลับมาห้องก็ถูกจัดให้เรียบร้อยแล้ว ดูใส่ใจดี |
ผมว่าเซ็นทาราออกแบบห้องที่นี่ได้สุดยอดเลยครับ ดูกลืนเข้ากับธรรมชาติในแบบริมทะเล แต่ก็ไม่ทิ้งความเรียบหรูไว้ด้วย
ห้องพักมีความกว้างใหญ่มาก จนบางทีเดินไปเดินมาก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
Wifi มีแต่เสียตังค์ คืนละหลายร้อยอยู่ เลยเปิดใช้ Personal Hotspot จาก iPhone 4 แทน [ช่วงโฆษณา]
อย่างที่บอกว่าเราแจ้งพนักงานว่ามาฮันนีมูน (ล่วงหน้า) ช่วงเย็นๆ ทางโรงแรมจึงจัดเค้กรูปหัวใจและแชมเปญมาส่งให้ถึงห้องด้วย !!
|
เค้กผลไม้รูปหัวใจ และแชมเปญฉลองฮันนีมูน |
-> ต่อตอนที่ 2 – สิ่งอำนวยความสะดวก, ห้องอาหาร, สรุป